nn ตัวเลขของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทย ในไตรมาส2 ปี2567 ขยายตัว 2.3% เพิ่มขึ้นจาก 1.6% ในไตรมาสแรกของปี...ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ ได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของการบริโภคเอกชน การบริโภคภาครัฐบาลขยายตัวได้ การส่งออก และ ภาคบริการ...แต่การลงทุนของภาครัฐและเอกชนยังคงหดตัว ทำให้ครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 1.9%...และ สศช.ก็ได้ประมาณการว่า GDP ของไทยในปี 2567 จะอยู่ที่ 2.3-2.8% ค่ากลางอยู่ที่ 2.5% ลดลงประมาณการครั้งที่แล้ว (20 พ.ค.2567 ) ที่อยู่ในระดับ 2.0-3.0%

ทำไม สศช.จึงปรับลดประมาณการ GDP ลงจากประมาณการเดิมทั้งๆ ที่จะยังมีแรงหนุนจาก การท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง การบริโภคที่ก็ยังขยายตัว การส่งออกที่ขยายตัว (แม้ว่าจะไม่มาก) การใช้จ่ายภาครัฐที่จะเร่งตัวขึ้น ???

เศรษฐศาสตร์วันหยุด...คิดว่า สศช.ก็คงจะมองเหมือนหลายฝ่ายที่มองว่าเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ยังมีความท้าทายอีกมารออยู่ ซึ่งจะเข้าไปกระทบต่อปัจจัยสนับสนุนของเศรษฐกิจไทยให้อ่อนแรงลง เช่นประเด็นของการบริโภคภาคเอกชนที่อาจอ่อนแอลง เพราะกำลังซื้อถูกกดดันด้วยปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับสูง และ การลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มแผ่วลง เนื่องจากผู้ประกอบการกำลังประสบกับอุปสรรคหลายด้าน ทั้งเรื่องของต้นทุนค่าแรง และ ค่าขนส่งที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ส่วนภาคการส่งออก ก็ยังมีความเสี่ยงที่กดดันเพิ่มเติม ทั้งปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น

นอกจากนี้การเข้ามาตีตลาดของสินค้าจีนและในสินค้าจีน จะส่งผลลบต่อการผลิต การส่งออก และการลงทุนภาคเอกชน ทั้งอาจกดดันโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต่อไปข้างหน้าด้วย หากการลงทุนของภาครัฐยังหดตัวอยู่ ทั้งที่ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย ก็ผ่านสภาแล้ว และการเบิกจ่ายก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว

แน่นอนว่า ในระยะสั้นก็ต้องกระตุ้นอุปสงค์ แต่หากว่ารัฐบาลละเลยแผนงานระยะกลาง ด้วยการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งเร่งการลงทุนในประเทศ และละเลยแผนงานระยะยาว ด้วยการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้าง และยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทย....ก็จะมีความเสี่ยงสูงมากที่เศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาวะ“ติดหล่ม”

ดูจากการบริหารด้านเศรษฐกิจของ “รัฐบาลชุดนี้” ผ่านมาปีกว่าๆนิดๆ...ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนก่อนและนายกรัฐมนตรีคนใหม่...ก็ยังวุ่นอยู่กับเรื่องระยะสั้น มุ่งที่แต่จะแจกเงิน...แต่ไม่เคยเห็นแผนงานที่จะเข้าไปแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยเลยแม้แต่น้อย...แบบนี้ชาติไหนเศรษฐกิจไทยจะขึ้นจากหล่มได้เสียที

พงษ์พันธุ์