ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ร่วมกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย สถาบันอาหาร สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ขยายความร่วมมือกับอีก 6 หน่วยงานในภาคใต้ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล และกระบี่ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก” ในงาน WORLD HAPEX 2024 จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างผู้ประกอบการไทยให้พร้อมพัฒนาธุรกิจฮาลาล โดยเฉพาะอาหารฮาลาลของไทยให้แข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกมีเครือข่ายพันธมิตรที่อยู่เคียงข้างผู้ประกอบธุรกิจสินค้าฮาลาลตลอดวงจรธุรกิจ ด้วยองค์ความรู้ ประสบการณ์ และช่องทางการค้าที่มีประสิทธิภาพ เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยและโลก
ในโอกาสนี้ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ibank นายอัลดุลบาซิ เจ๊ะมา ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรีและประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา นายยำอาด ลิงาลาห์ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล นายอัสนาวี มุคุระ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดกระบี่ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก” โดยมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายธีรลักษ์ แสงสนิท ประธานกรรมการ EXIM BANK ผศ.ดร.มะรอนิง สาแลมิง ประธานที่ปรึกษา ibank ผศ.ดร.อัสมัน แตอาลี ผู้อำนวยการสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้สามารถส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังตลาดต่างประเทศได้ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการด้านฮาลาล ทิศทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในโลกยุคใหม่ การเข้าถึงการขอเครื่องหมายรับรองมาตรฐานฮาลาล การขยายโอกาสทางการค้าผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและการออกงานแสดงสินค้าในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเครื่องมือทางการเงินเพื่อเสริมศักยภาพของธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ในงาน WORLD HAPEX 2024 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ibank เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลไทยได้เล็งเห็นถึงการขยายตัวของตลาดฮาลาลโลก จึงนับเป็นโอกาสสําคัญของอุตสาหกรรมฮาลาลไทยในการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ หากย้อนดูในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ พ.ศ.2555 ถึง 2565 มีรายงานการเติบโตของการใช้จ่ายผู้บริโภคจากตลาดฮาลาลเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% จาก 1.62 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ไปถึง 2.29 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการเติบโตนี้เกิดจากแรงผลักดันของการขยายประชากรมุสลิมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยวันนี้มีเกือบ 2,000 ล้านคนทั่วโลก โดยกลุ่มบริษัทระดับโลก ตั้งแต่ BRF บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ของโลก เนสท์เล่ ไปจนถึง Nike ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ตลาดฮาลาล นอกจากนี้สถาบันเพื่อการพัฒนาในกลุ่ม OIC ได้แก่ The Islamic Development Bank (ISDB) หรือ The Islamic Centre for Development of Trade (ICDT) พร้อมด้วยหน่วยงานสำคัญขององค์กรสหประชาชาติ เช่น UNHCR รวมถึง World Bank ก็ให้ความสนใจกับการเงินอิสลามในมิติด้านสังคม ประเทศไทย โดยในวันนี้ ibank และ EXIM BANK ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านฮาลาลครอบคลุมทุกภาคส่วนของประเทศ เพื่อตกลงร่วมกันผลักดันส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลไทยสู่ตลาดโลก และจากบทบาทของ ibank ภายใต้ความร่วมมือนี้ ibank ถือเป็นหนึ่งในระบบนิเวศฮาลาลที่สำคัญ การเป็นสถาบันการเงินที่ฮาลาลกลายเป็นหนึ่งกลไกสำคัญที่ต้องรับผิดชอบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ด้วยการเป็นที่พึ่งของแหล่งเงินทุนที่ฮาลาลตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อจะไปหล่อเลี้ยง เกื้อกูล ธุรกิจฮาลาลต่างๆ ให้เติบโตสู่เป้าหมายประเทศต่อไป
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ตลาดสินค้าฮาลาลได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นไม่จำกัดเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคชาวมุสลิมซึ่งมีจำนวนรวม 2,000 ล้านคนหรือ 1 ใน 4 ของประชากรโลก แต่ยังขยายวงกว้างไปสู่กลุ่มผู้บริโภคอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมด้วย จึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใหญ่กว่า GDP ไทยเกือบ 4 เท่า และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการทั่วโลกรวมทั้งไทย โดยไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่อันดับที่ 15 ของโลก (เฉพาะส่งออกไปกลุ่มองค์การความร่วมมืออิสลามหรือ Organisation of Islamic Cooperation : OIC) และเป็นจุดหมายท่องเที่ยวอันดับ 5 ของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมทั่วโลก (ในกลุ่มประเทศ Non-OIC) ที่สนใจสินค้าอาหารและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของไทยเป็นอย่างมาก ผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่ของโลกที่ส่งออกไปกลุ่ม OIC ได้แก่ บราซิล อินเดีย สหรัฐฯ รัสเซีย และอินโดนีเซีย ส่วนผู้นำเข้าอาหารฮาลาลในกลุ่ม OIC รายใหญ่ของโลก ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ตุรกี ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) นอกจากนี้ อินเดียและสหภาพยุโรปยังเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูง และพร้อมใช้จ่ายสำหรับสินค้าเพื่อสุขภาพ ผู้ประกอบการไทยจึงควรยกระดับการพัฒนาสินค้าฮาลาล โดยเฉพาะอาหารที่ประเทศไทยมีศักยภาพและอัตลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นที่นิยมระดับโลกรวมถึงสินค้าแฟชั่นสื่อ (Media) ยาและเครื่องสำอาง และธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการรองรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม หากผู้ประกอบการสามารถยกระดับและสร้างระบบนิเวศให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและหลักศาสนา ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำตลาดได้อีกมาก ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากประเทศมุสลิมที่เดินทางเข้าไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซาอุดีอาระเบีย UAE และโอมาน โดย 5 ประเทศมุสลิมที่ใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในไทยมากที่สุด ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ อินโดนีเซีย คูเวต และ UAE
EXIM BANK จึงพร้อมสานพลังกับหน่วยงานพันธมิตร สร้างผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ส่งออกสินค้าฮาลาล และผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวให้แข่งขันได้ในเวทีโลก ผ่านการเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน รวมถึงเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ EXIM BANK จัดให้มีสิทธิพิเศษด้านประกันการส่งออกให้แก่ลูกค้าของ ibank ที่เป็นชาวมุสลิม และสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการไทยทั่วไปที่ต้องการเงินทุนจาก EXIM BANK เพื่อเริ่มต้นส่งออกสินค้าฮาลาลหรือขยายธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอัตราพิเศษ เริ่มต้น 3.00% ต่อปี วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท เพื่อสร้างนักรบเศรษฐกิจไทยในตลาดโลกและยกระดับสินค้าไทยสู่สากล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลสู่ ASEAN Halal Hub ภายในปี 2571
ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครขอรับบริการด้านสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือขยายการลงทุนจาก EXIM BANK สำหรับ SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกและผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก ได้แก่ สินเชื่อ EXIM Ready Cash อัตราพิเศษเริ่มต้น 3.00% ต่อปี วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท สินเชื่อ EXIM Green Start อัตราพิเศษเริ่มต้น 4.10% ต่อปี (Prime Rate - 2.25%) วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลด 6 เดือนแรก 0.25% ต่อปี สินเชื่อเอ็กซิมเริ่มต้นส่งออก อัตราพิเศษเริ่มต้น 5.35% ต่อปี (Prime Rate - 1%) วงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลดปีแรก 0.25% ต่อปี สินเชื่อ EXIM Trade Fair Ready อัตราพิเศษเริ่มต้น 5.99% ต่อปี วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท และกรมธรรม์ประกันส่งออก EXIM for Small Biz เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ ฟรี! ค่าเบี้ยประกัน 1 ราย มูลค่า 1,800 บาท สำหรับการรับประกันวงเงินผู้ซื้อ 0.30 ล้านบาท ด้วยเทอมการชำระเงิน 90 วัน หรือรับส่วนลดค่าประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อตามเงื่อนไขของธนาคารและกรณีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าฮาลาลจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม Voucher มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท เพื่อเป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันบริการประกันการส่งออก EXIM for Small Biz สำหรับการทำประกันผู้ซื้อรายที่ 2 หรือส่วนลดค่าประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อ จำนวน 1 ราย
สำหรับ ibank ได้ร่วมขับเคลื่อนยุทธศาตร์ IGNITE THAILAND ออกสินเชื่อ IGNITE HALAL สนับสนุนทางการเงินเสริมสภาพคล่อง และการลงทุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจฮาลาล ที่เป็นกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ และกลุ่มธุรกิจอาหาร หวังผลักดันธุรกิจ SMEs ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนฮาลาล ให้วงเงินสินเชื่อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมี บสย.ค้ำประกันวงเงินสินเชื่อ พิเศษ! รัฐบาลสนับสนุนค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้นานถึง 3 ปี ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของ บสย. และสำหรับลูกค้าที่มีสถานประกอบการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ibank มอบส่วนลดพิเศษ 3 เดือนแรก คิดอัตราผ่อนชำระเพียง 50% ของค่างวดปกติ
IGNITE HALAL เป็นโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ SMEs ใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ หรือเป็น Supply Chain ของกลุ่มธุรกิจข้างต้น เช่น ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ค้าปลีก ค้าส่ง และร้านค้า ที่ต้องการแหล่งเงินทุนฮาลาลเพื่อนำไปลงทุนในการขยายกิจการในรูปแบบวงเงินสินเชื่อแบบมีระยะเวลา (Term Financing) และเพื่อเสริมสภาพคล่องในรูปแบบวงเงินเบิกถอนเงินสด (Islamic O/D) โดยคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นบุคคลธรรมดานับถือศาสนาอิสลาม หรือ นิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นนับถือศาสนาอิสลามไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนที่ชำระแล้ว หรือ เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับเครื่องหมายรับรองฮาลาลเรียบร้อยแล้ว หรือ เป็นผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการ/โครงการ/การลงทุนที่ไม่ขัดต่อหลักชะรีอะฮ์ ที่อยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิจังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อตอกย้ำพันธกิจของ ibank ในการสนับสนุนธุรกิจฮาลาลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
โครงการข้างต้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs มีโอกาสผันตัวเป็นผู้ส่งออก โดยเฉพาะสินค้าอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้มากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าไทยสู่มาตรฐานสากล ท่ามกลางปัจจัยท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจในโลกการค้าปัจจุบัน โดยใช้จุดแข็งของประเทศไทยในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ได้มาตรฐานสากล เจาะตลาดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อ กระจายอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมี EXIM BANK และ ibank เป็นพันธมิตรอยู่เคียงข้างตลอดวงจรธุรกิจ ขับเคลื่อนความกินดีอยู่ดีของประชาชนและการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระดับท้องถิ่น ประเทศไทย และโลกโดยรวม
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี