นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับครั้งที่ 70 (The 70th Bangkok Gems and Jewelry Fair) ว่า งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT และสนับสนุนโดยองค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงสมาคมการค้าสำคัญในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ 16 องค์กร
โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair มาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 40 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกระดับได้พบและเจรจาธุรกิจในระดับนานาชาติ และงานมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันเป็น 1 ใน 4 งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญที่ผู้ค้าจากทั่วโลกต้องมาเยือน และงานครั้งที่ 70 นี้เปิดงานวันแรกก็ได้รับการตอบรับอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมงานทั้งจากไทยและต่างประเทศกว่า 20 ประเทศ รวมกว่า 1,100 ราย 2,470 คูหา จัดแสดงเต็มพื้นที่ ชั้น G และ LG โดยคาดจะมีผู้เข้าชมงานรวมกว่า 40,000 คน และคาดว่าจะสร้างมูลค่าการค้าได้กว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ อัญมณีและเครื่องประดับนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก และจากจุดเด่นของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าพลอยสีที่สำคัญของโลก รวมถึงคุณภาพและความประณีตในการเผาพลอยสีและการเจียระไนพลอย โดยอัญมณีและเครื่องประดับเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมส่งออกสำคัญที่ทำรายได้สูงสุดให้กับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงที่ผ่านมาทั่วโลก รวมทั้งไทยต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความท้าทายต่างๆ แต่การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) กลับเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2566 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) มีมูลค่า 8,658.11 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.40% และในช่วง 7 เดือนแรกปี 2567 มีมูลค่ากว่า5,103.78 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ดังนั้น การจัดงานBangkok Gems and Jewelry Fair จึงเป็นงานแสดงสินค้าที่จะเป็นกลไกหลักที่ช่วยผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลกได้
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกดีขึ้นอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกชะลอตัวลงต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภค โดยตลาดหลักทั้งยุโรป และจีน เริ่มฟื้นตัวและมีการบริโภคเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การขยายมาตรการของประเทศกลุ่ม G7 ในการห้ามนำเข้าเพชรที่มีแหล่งกำเนิดจากรัสเซียตั้งแต่ขนาด 0.5 กะรัตขึ้นไป ในวันที่ 1 กันยายน 2567 จะยิ่งสร้างความกดดันต่อผู้ส่งออกเพชรมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม GIT มีข้อเสนอแนะว่าผู้ประกอบการควรจะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วย เพราะไม่เพียงช่วยยกระดับการผลิต แต่ยังเพิ่มขีดความสามารถบุคลากรและพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ โดยการดำเนินการตามแนวทางนี้จะช่วยให้ผู้ส่งออกไทยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และขยายตลาดในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี