ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) เปิดเผยว่าภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วยประกาศขาย 140,725 หน่วย และมีมูลค่า 718,436 ล้านบาท เมื่อพิจารณาประเภทพบว่าประเภทของที่อยู่อาศัยที่มีการประกาศขายมากที่สุดใน 3 ประเภทแรก ได้แก่ (1) บ้านเดี่ยว 55,754 หน่วย คิดเป็น 39.6% และมีมูลค่า 373,917 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 52.0% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด (2) ทาวน์เฮ้าส์ 41,384 หน่วย คิดเป็น 29.4% มูลค่า 105,191 ล้านบาท คิดเป็น 14.6%ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด(3) ห้องชุด 35,963 หน่วย คิดเป็น 25.6% มูลค่า 201,887 ล้านบาทคิดเป็น 28.1% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมดสำหรับอาคารพาณิชย์ และบ้านแฝด เป็นประเภทที่มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าประกาศขายน้อยที่สุดอาคารพาณิชย์มีเพียง 5,326 คิดเป็น 3.8% มีมูลค่า30,635 ล้านบาท เป็น 4.3% ขณะที่บ้านแฝดมีเพียง 2,298 คิดเป็น 1.6% มีมูลค่า 6,805 คิดเป็น 0.9%
2) ราคาขาย พบว่า ระดับราคาของที่อยู่อาศัยที่มีหน่วยประกาศขายมากที่สุดใน 3 ระดับราคาแรก ได้แก่ (1) ระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท มีมากที่สุด29,715 หน่วย คิดเป็น 21.1% แต่มีมูลค่ารวม 16,152 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนน้อยที่สุดเพียง 2.2% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด (2) ระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท มี 22,905 หน่วย คิดเป็น16.3% และมีมูลค่า 57,188 ล้านบาท คิดเป็น 8.0%ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด
(3) ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มี 21,151 หน่วย คิดเป็น 15.0% และมีมูลค่า 82,960ล้านบาท คิดเป็น 11.5% ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมดโดยพบว่าระดับราคาที่มีสัดส่วนมูลค่ามากที่สุด อยู่ในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทมี 13,673 หน่วย แต่มีสัดส่วนมูลค่าสูงถึง 54.3%หรือมากกว่ามูลค่าในระดับราคาอื่นๆ รวมกัน เมื่อพิจารณาระดับราคาของที่อยู่อาศัยที่ประกาศขายแยกตามประเภทที่อยู่อาศัย พบว่า บ้านเดี่ยวและห้องชุดมีหน่วยขายในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มากที่สุดขณะที่บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์มีหน่วยขายในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มากที่สุด และทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายมากที่สุดในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท
3) ทำเลที่ตั้ง จังหวัดที่มีอันดับมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่มีการประกาศขายสูงที่สุด 10 จังหวัดแรก ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา ระยอง และนครปฐม แสดงให้เห็นว่าอุปทานที่อยู่อาศัยมือสองยังคงมีการประกาศขายมากที่สุดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (ยกเว้นสมุทรสาครไม่ติดอันดับ) และมีจำนวนมากประกาศขายมากในพื้นที่จังหวัดสำคัญที่เป็นหัวเมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยว
4) เปรียบเทียบระดับราคาที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วยในระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท มากที่สุด (21.1%) รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (16.3%) ขณะที่ระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาทมีจำนวนหน่วยน้อยที่สุด (4.0%) การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดอยู่ในระดับราคาไม่เกิน1.00 ล้านบาท (34.7%) รองลงมาคือระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (18.8%) ขณะที่ระดับราคา7.51-10.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยน้อยที่สุด (0.9%)จะเห็นว่าจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองมีความสอดคล้องกับข้อมูลจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายโดยเมื่อในตลาดมีจำนวนประกาศขายมากจะมีการโอนกรรมสิทธิ์มากตามไปด้วย
ด้านมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่าที่สุดในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ( 54.3%) รองลงมาคือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท (11.5%) และระดับราคาที่มีมูลค่าน้อยที่สุด คือระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท(2.2%) ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 2 ปี 2567 มีมูลค่ามากที่สุดในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท (22.9%) รองลงมา คือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท (17.8%) และระดับราคาที่มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์น้อยที่สุด คือระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท (3.8%)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี