นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน ได้สร้างความเสียหายแก่นิติบุคคลและประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นอย่างมาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ จึงกำชับให้ทุกหน่วยงานภายใต้ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงการเยียวยาภาคธุรกิจอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ กรมฯจึงออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบใน 3 จังหวัดภาคเหนือ รวมถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ เพิ่มเติม โดยมีมาตรการช่วยเหลือธุรกิจ ดังนี้ 1.นิติบุคคลผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตที่ประสบอุทกภัย สามารถขอขยายเวลาและชี้แจงเหตุผลความจำเป็น และหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ทำให้ไม่อาจยื่นจดทะเบียน ยื่นงบการเงิน ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) รวมถึงแจ้งบัญชี หรือเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหาย ที่ต้องแจ้งต่อสารวัตรบัญชีภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาขยายเวลาในการยื่นเอกสารหรือดำเนินการตามกฎหมายของนิติบุคคล ทั้งนี้นิติบุคคลสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาหรือดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สถานการณ์อุทกภัยได้สิ้นสุดลง
2.กรณีนิติบุคคลใดได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประสบอุทกภัย สามารถชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น และหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยทำให้ไม่อาจดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณายุติเรื่องและไม่ออกคำสั่งปรับเป็นพินัยตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี