นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 7 เดือน เฉลี่ยเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2567 อยู่ที่ 156.50 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.2% โดยกลุ่มเบนซินลดลง 1.4% มีปัจจัยสำคัญจากระดับราคาขายปลีกที่อยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน การพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมืองและโครงการรถไฟทางคู่ที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด รวมถึงจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการ เพิ่มขึ้น 3.3% ขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการ สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากข้อมูลจำนวนโรงงานที่แจ้งเปิดกิจการใหม่ และมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 16.7% ขยายตัวจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ขณะที่น้ำมันเตาลดลง 19.1% NGV ลดลง 17.1% ซึ่งมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และการใช้ LPG เพิ่มขึ้น 3.1%
นายสราวุธ กล่าวว่า การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.55 ล้านลิตร/วัน ลดลงทุกชนิดน้ำมันยกเว้นการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ประกอบด้วย แก๊สโซฮอล์ 95ลดลงมาอยู่ที่ 17.64 ล้านลิตร/วัน แต่ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดที่ 56% รองลงมาคือ แก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.64 ล้านลิตร/วัน คาดว่าเป็นผลสืบเนื่องจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพโดยมีการลดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566-เมษายน 2567 ส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ถึง 1.40-1.78 บาท/ลิตร (จากเดิมในปีก่อน 0.51 บาท/ลิตร) ประชาชนบางส่วนจึงหันไปใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แทน สำหรับแก๊สโซฮอล์ อี20 ลดลงมาอยู่ที่ 5.47 ล้านลิตร/วัน เบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 0.42 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี85ลดลงมาอยู่ที่ 0.07 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
ส่วนการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการ เฉลี่ยอยู่ที่ 68.06 ล้านลิตร/วัน ประกอบด้วย ดีเซลหมุนเร็วธรรมดา เพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 67.90 ล้านลิตร/วัน และดีเซลหมุนเร็ว บี20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.15 ล้านลิตร/วัน ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงระยะเวลาการตรึงราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 โดยใช้กลไกการบริหารเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะที่ดีเซลพื้นฐาน ลดลงมาอยู่ที่ 1.64 ล้านลิตร/วัน สำหรับน้ำมันกลุ่มดีเซลภาพรวมอยู่ที่ 69.69 ล้านลิตร/วัน
ในขณะที่การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 15.65 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 16.7% โดยมีปัจจัยมาจากการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยว เช่น นโยบายฟรีวีซ่า การเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเทศกาล การลดหย่อนภาษีสำหรับพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง มาตรการอนุญาตให้ชาวต่างชาติจาก 93 ประเทศ เดินทางเข้าราชอาณาจักรได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า อย่างไรก็ตามปริมาณการใช้ยังไม่กลับไปสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19
นายสราวุธ กล่าวว่า ในการใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 18.69 ล้านกก./วัน ประกอบด้วย ภาคปิโตรเคมี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.69 ล้านกก./วัน ภาคครัวเรือน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.71 ล้านกก./วัน และภาคขนส่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.32 ล้านกก./วัน โดยมีสาเหตุสำคัญจากจำนวนรถแท็กซี่ LPG มียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้นสวนทางกับจำนวนแท็กซี่ NGV ที่มีแนวโน้มลดลง ในขณะที่การใช้ในภาคอุตสาหกรรม ลดลงมาอยู่ที่ 1.97 ล้านกก./วัน ซึ่งมีแนวโน้มปรับเปลี่ยนไปใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น
ส่วนการใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 2.87 ล้านกก./วัน โดยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนรถจดทะเบียน NGV สะสม และจำนวนสถานีบริการ NGV ที่มีแนวโน้มปิดตัวลง ทั้งนี้ ปตท. ยังคงช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะที่ถือบัตรสิทธิประโยชน์ ปัจจุบันดำเนินการอยู่ในระยะที่ 2 (1 กรกฎาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2568)
นายสราวุธ กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,037,105 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 2.8 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 98,776 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 972,261 บาร์เรล/วัน ลดลง 1.9% เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันมีการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 93,970 ล้านบาท/เดือน
ส่วนการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 64,844 บาร์เรล/วัน ลดลง 15.4% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 4,806 ล้านบาท/เดือน การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 169,133 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 5.9% ขณะที่ป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตาน้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และLPG คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 17,517ล้านบาท/เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี