นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) สำรวจข้อมูลเศรษฐกิจชุมชนฐานราก จากผู้นำชุมชนและสมาชิกในชุมชน 28,413 ตัวอย่าง จากกว่า 7,000 ตำบลทั่วประเทศ โดยมีสาระสำคัญของผลการศึกษาประกอบด้วย ดัชนีเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ปัญหาและความต้องการของชุมชน และประเด็นสำคัญอื่นๆ ดังนี้
1.ดัชนีเศรษฐกิจชุมชนฐานรากของกลุ่มสมาชิกในชุมชนภาพรวม ปี 2567 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 53.8 จากระดับ 47.7 ในปี 2566 เป็นการวัดใน 3 มิติ คือ 1) สถานะทางการเงิน2) ศักยภาพในการประกอบอาชีพ และ3) ภาวะเศรษฐกิจ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีอยู่ในช่วงเชื่อมั่นมาจากส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าหากได้รับโอกาสที่ดีขึ้นจะสร้างรายได้หรืออาชีพให้ดีขึ้นได้ สำหรับกลุ่มผู้นำชุมชนภาพรวมปี 2567 มีระดับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 54.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่ในระดับ 54.0 เพราะมีระดับความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นต่อศักยภาพในการประกอบอาชีพ สถานะทางการเงินลดลงเล็กน้อย
เมื่อจำแนกกลุ่มสมาชิกในชุมชนตามภาค พบว่า ประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีระดับความเชื่อมั่นสูงที่สุดอยู่ในระดับ 61.7 รองมา คือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 55.8 54.6 53.8 และ 52.6 ตามลำดับ กลุ่มอาชีพพบว่า ประชาชนในทุกกลุ่มอาชีพมีความเชื่อมั่นในภาพรวม กลุ่มพนักงานของรัฐมีระดับความเชื่อมั่นมากที่สุดในระดับ 60.1 รองลงมาคือ พนักงานเอกชน ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว เกษตรกร รับจ้าง และไม่ได้ทำงาน อยู่ในระดับ 55.5 54.9 52.5 52.4 และ 51.0 ตามลำดับ
2.ประเด็นปัญหาและความต้องการความช่วยเหลือ โดยเรื่องที่มีระดับของปัญหามากที่สุดต่อเนื่องในทุกปี คือ รายได้ และการประกอบอาชีพ และค่าครองชีพ ประเด็นที่ต้องการความช่วยเหลือ 3 อันดับในมุมมองของสมาชิกในชุมชน ได้แก่ การลดราคาค่าไฟฟ้า/ประปา การลดราคาค่าสินค้าและบริการ และการเพิ่มค่าจ้าง/ค่าตอบแทน
3.ประเด็นสำคัญได้แก่ รายได้ครัวเรือนต่อเดือนพบว่า 85.1% มีมุมมองว่ารายได้ยังไม่เพียงพอ โดย 41.1% ประเด็นการออม 59.3% ของครัวเรือนมีการออมเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 54.7% ที่เหลือไม่มีการออมสาเหตุจากรายได้ไม่เพียงพอและมีภาระหนี้สิน ประเด็นหนี้สิน65.3% มีหนี้สิน เรื่องที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐมากที่สุด คือ การเงิน 30.5% รองลงมา คือ โอกาสในอาชีพ 29.0%เมื่อสอบถามความเห็นต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ด้านรายได้ ครัวเรือนส่วนใหญ่ 51.3%เห็นว่าปีหน้า จะมีรายได้คงเดิม ด้านการใช้จ่ายครัวเรือนส่วนใหญ่ 62.2% เห็นว่ารายจ่ายจะเพิ่มขึ้น และด้านหนี้สิน ครัวเรือนส่วนใหญ่ 29.5% เห็นว่าหนี้สินจะเพิ่มขึ้น และด้านความมั่นคงในรายได้/อาชีพ ครัวเรือนส่วนใหญ่ 48.8%เห็นว่ารายได้/อาชีพ ในปีหน้าจะไม่แน่นอน
รอง ผอ.สนค. กล่าวว่าผลการศึกษาจะช่วยชี้ประเด็นของแต่ละชุมชน เพื่อให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้ประโยชน์ และนำไปพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากได้ตรงจุด ช่วยร่นระยะเวลาการแก้ไขปัญหาได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี