รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่มีการแข็งขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 1 เดือน โดยแข็งค่าขึ้นกว่า 3 บาทซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคการส่งออก ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย, สถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน,สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขอให้พิจารณาช่วยเหลือราคาอ้อยตกต่ำจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า
ทั้งนี้ เนื้อหาในเอกสารระบุว่าสืบเนื่องจากปัจจุบันวิกฤตการแข็งค่าเงินบาท ได้แข็งค่าขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งทางการค่ากับประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศที่เป็นคู่แข่งการค้า เช่น ประเทศอินเดีย ประเทศเวียดนาม ประเทศบราซิล และอีกหลายประเทศ ต่ำกว่าประเทศไทยอยู่มาก การแข็งค่าเงินบาทในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อราคาอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ซึ่งจะมีการกำหนดราคาอ้อยก่อนเปิดหีบเพื่อผลิตน้ำตาลทรายภายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
โดยหากพิจารณาจากค่าเงินบาทปัจจุบันเปรียบกับอัตราแลกเปลี่ยนในปีที่ผ่านมา จะทำให้ราคาอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อยต่ำลงกว่าตันละ 80 บาทนอกเหนือจากปัจจัยอื่นโดยเฉพาะราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกที่ต่ำลงอีก ซึ่งจะเพิ่มภาระให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยประสบภาวะการขาดทุนเพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาอ้อยตกต่ำอย่างรุนแรง ทางองค์กรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ จึงนำเรียนปัญหามา เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาการแข็งค่าเงินบาท ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อราคาอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ตกต่ำ ให้อยู่ระดับอ่อนที่เหมาะสมเพื่อเกษตรกรจะได้มีรายได้สูงขึ้น และสร้างโอกาสให้สินค้าเกษตรที่ส่งออกสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับโลก เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแรงให้เกษตรกร โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรมีกินมีใช้อย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี