TOAVH กางแผนธุรกิจสร้างรายได้ 1.1 หมื่นล้าน ตั้งเป้าโต 5% เตรียมทุ่มงบ 650 ล้านบาท สยายปีกสู่ธุรกิจสีเขียว ปักหมุดตั้งโรงงานสีฝุ่นแห่งใหม่ ขึ้นแท่นผู้นำกำลังการผลิตสูงสุดในไทย พร้อมต่อยอดธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ รุกตลาดรถไฟฟ้า จับมือ 5 พันธมิตรแบรนด์จีน ร่วมสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม
นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน กลุ่มบริษัทในเครือ ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง (TOAVH Group) เปิดเผยว่า ปี 2567 TOAVH มีนโยบายที่จะขยายธุรกิจสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและมั่นคง โดยให้ความสำคัญกับแนวคิด “ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ด้วยการพัฒนานวัตกรรมด้านการผลิต และการเลือกสรรผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ให้ความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค และดีต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการตอบสนองต่อความต้องการสูงสุดของผู้บริโภคคนไทยอย่างแท้จริง
ดังนั้น เพื่อรองรับแนวคิดและนโยบายดังกล่าว ทาง TOAVH ได้ขยายการลงทุนในธุรกิจสีเขียว ของกลุ่มบริษัทในเครือ ด้วยงบประมาณด้านการลงทุน รวมทั้งสิ้น 650 ล้านบาท โดยแบ่งการลงทุนด้านต่างๆ ดังนี้
1. กลุ่มธุรกิจสีอุตสาหกรรมและชิ้นส่วนยานยนต์ ได้ขยายการลงทุนในส่วนของ ทีโอเอ เพอฟอร์มมานซ์ โค๊กติ้ง คอร์ปอเรชั่น (TOAPC) โดยตั้งโรงงานผลิตสีฝุ่น (Powder Coating) แห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย (สุวรรณภูมิ) บนพื้นที่ 10 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้อย่างเป็นทางการ ภายในปี 2569 ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้ จะมีกำลังการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 3,000 ตันต่อปี
พร้อมกันนี้ ได้ขยายการลงทุนอีก 130 ล้านบาท ในโรงงาน TOAPC ปัจจุบัน ที่สมุทรปราการ ด้วยการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสีฝุ่นสำหรับรองรับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน หลังติดตั้งครื่องจักรแล้วเสร็จ โรงงานแห่งนี้ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ตันต่อปีและจากการลงทุนในครั้งนี้ จะส่งผลทำให้ TOAPC มีกำลังผลิต รวมทั้งสิ้น 9,000 ตันต่อปี นับเป็นผู้ผลิตสีฝุ่นที่มีกำลังผลิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย
ปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ ที่มีความปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซี่งผลิตภัณฑ์สีฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดสารระเหย (VOCs) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) มากถึง 40% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์สีน้ำมัน ทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภค อีกด้วย ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์สีฝุ่นโดยรวม มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ละ 10% คิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท หรือประมาณ 30,000 ตันต่อปี
ด้วยเหตุนี้ ทาง TOAVH ได้เล็งเห็นความสำคัญของตลาดสีฝุ่น ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงได้ทุ่มงบการลงทุนด้านการผลิตในธุรกิจดังกล่าว เพื่อขยายฐานการผลิตสำหรับรองรับความต้องการของผู้บริโภค ควบคู่การสร้างความแข็งแกร่งและโอกาสในการเติบโตสู่ความเป็นผู้นำตลาดสีฝุ่นต่อไปในอนาคต
2. กลุ่มธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ภายใต้ชื่อ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักของ TOAVH ได้มุ่งเน้นขยายธุรกิจสู่ตลาดรถยนต์ กลุ่ม EV โดยให้ความสำคัญกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของจีน จำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ ZEEKR, DEEPAL, MG, OMODA&JAECOO, AION ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับชั้นแนวหน้า ที่มีศักยภาพด้านการแข่งขัน โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์, โรงงานผลิตยานยนต์ และผลิตภัณฑ์สำหรับรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย ซึ่งการขยายธุรกิจในครั้งนี้ จะสร้างความแข็งแกร่งและมั่นคงอย่างยั่งยืนให้แก่ธุรกิจ ในกลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ได้ขยายการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว ด้วยเม็ดเงิน 220 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการแห่งใหม่ของ ZEEKR จำนวน 1 แห่ง บนถนนราชพฤกษ์ และการปรับโฉมโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ จำนวน 6 แห่ง รวมทั้ง โชว์รูม MG Evolution เพื่อรองรับการขยายธุรกิจสู่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 5 แบรนด์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทยอย่างครบถ้วนและครบวงจร ส่งผลทำให้คาดการณ์ว่า ปีนี้ ธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ จะมียอดขายสะสมโดยรวมเพิ่มขึ้น 10% หรือ คิดเป็นรายได้ เติบโตเพิ่มเป็น 7%
“ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคคนไทยเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า BEV มียอดจดทะเบียนสะสมรวม 69,047 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 17.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสมโดยรวม ถึง วันทีสิงหาคม 2567 มีตัวเลขสูงถึง 200,109 คัน จากตัวเลขดังกล่าว สะท้อนถึงความสนใจของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้า ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ตระหนักและมีความรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น”
สำหรับการขยายการลงทุนธุรกิจสีเขียวในครั้งนี้ จะส่งผลทำให้ธุรกิจในเครือของ TOAVH มีผลิตภัณฑ์และบริการ สำหรับรองรับความต้องการของตลาดโดยรวมมากขึ้น ทั้งสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยปีนี้ ทาง TOAVH ตั้งเป้ารายได้ 11,000 ล้านบาท หรือ เติบโตเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2566 แบ่งสัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจสีอุตสาหกรรมและชิ้นส่วนยานยนต์ อยู่ที่ 40% คิดเป็นมูลค่า 4,400 ล้านบาท, กลุ่มธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ สัดส่วน 50% คิดเป็นมูลค่า 5,500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อีก 10% คิดเป็นมูลค่า 1,100 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี