นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (ดัชนี SMESI) ประจำเดือนสิงหาคมอยู่ที่ระดับ 49.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 49.9 และอยู่ต่ำกว่าระดับความเชื่อมั่นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่กระทบต่อกำลังซื้อ ส่งผลต่อสภาพคล่องของกิจการ และมีผลให้แนวโน้มหนี้สินเร่งตัวสูงขึ้นรวมถึงสถานการณ์เชิงลบในหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ที่เผชิญกับอุทกภัยฉับพลันกระทบกับการดำเนินธุรกิจในพื้นที่ การขาดแคลนวัตถุดิบจากเส้นทางการจัดส่งสินค้าตัดขาด และราคาต้นทุนเร่งตัวสูง
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาดัชนีองค์ประกอบ พบว่า องค์ประกอบด้านปริมาณการผลิต/การค้า/การบริการและด้านการลงทุนโดยรวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 52.1 และ 50.9 จากระดับ 52.0 และ 50.0 ของเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีองค์ประกอบด้านอื่นๆ ได้แก่ คำสั่งซื้อโดยรวม ต้นทุนรวม(ต่อหน่วย) กำไร และการจ้างงาน ลดลงอยู่ที่ระดับ 52.5,40.4, 50.9 และ 49.8 จากระดับ 53.6, 41.0, 52.5 และ 50.2 ตามลำดับ
นางสาวปณิตากล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (ดัชนี SMESI) รายสาขาธุรกิจ พบว่า ภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 52.3ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 49.7 เป็นผลจากสาขาการผลิตอาหาร การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก และการผลิตยาง มีการผลิตเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ที่เร่งตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์การขาดแคลนสินค้า ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบของอุทกภัยในหลายพื้นที่ ส่วน ภาคการค้ายังชะลอตัวลงต่อเนื่องโดยปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 49.1จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 50.3 และอยู่ต่ำกว่าระดับความเชื่อมั่นเป็นเดือนแรก โดยเฉพาะสาขาการขายสินค้าอุปโภคบริโภค และการค้าเกี่ยวกับยานยนต์ในขณะที่การค้าเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างได้อานิสงส์ในกลุ่มสินค้าป้องกันอุทกภัย เป็นหลัก
ขณะที่ภาคการบริการ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 47.5 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 49.3 ซึ่งปรับตัวลดลงในทุกสาขา โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญการชะลอตัวของกำลังซื้อในหลายพื้นที่ ตัวอย่างเช่น กลุ่มห้องเช่ารายเดือนที่เริ่มมีผู้ย้ายออกก่อนสิ้นสุดสัญญารวมถึงการเลื่อนการชำระค่าเช่า เช่นเดียวกับกลุ่มบริการสปาและนันทนาการที่ชะลอลงตามการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนภาคธุรกิจการเกษตร ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 52.1 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 53.9 เป็นการชะลอตัวจากผลของความเสียหายที่เกิดจากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ รวมถึงอุปสรรคด้านโลจิสติกส์
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 52.8 ลดลงจากการคาดการณ์ในเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 54.7 เนื่องจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนทางการเมือง และความไม่ชัดเจนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ส่งผลต่อการลดลงของยอดคำสั่งซื้อในอนาคตค่อนข้างมาก
“สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือมากที่สุดอย่างเร่งด่วน เช่น การเร่งดำเนินการโครงการ Digital Wallet หรือมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในรูปแบบอื่นๆ การควบคุมต้นทุนราคาสินค้า/วัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง และมาตรการผ่อนปรนข้อกำหนดหรือกฎระเบียบในการเข้าถึงสินเชื่อโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SME ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เพราะต้องการนำเงินทุนไปใช้ในการฟื้นฟูกิจการ โดย สสว. มีมาตรการเร่งด่วนให้ความช่วยเหลือ SME กลุ่มนี้ด้วยเงินทุนหมุนเวียนและสินเชื่อ การส่งเสริมการส่งออกสินค้า การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งกันให้กับผู้ประกอบการ SME ไทย” นางสาวปณิตา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี