นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังความก้าวหน้าการดำเนินงานต่างๆ รวมถึงปัญหาของผู้ปฏิบัติงานในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพฯ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย) โดยได้รับฟังการบรรยายแผนการดำเนินโครงการสำคัญต่างๆ ของการรถไฟฯ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง), โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพ - หนองคาย,โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ และโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงบ้านไผ่ - นครพนม / ขอนแก่น - หนองคาย
ทั้งนี้ภาพรวมโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ปัจจุบันมีความคืบหน้าโครงการ 36% ส่วนประเด็นสถานีอยุธยานั้น ได้นำส่งรายงาน HIA ให้คณะอนุกรรมการมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อพิจารณาตามลำดับและขั้นตอนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ บริเวณอุโมงค์ผาเสด็จที่มีปัญหาฝุ่นควันนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อตรวจวัดเกณฑ์มาตรฐาน คาดว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567
พร้อมกันนี้ได้รับฟังบรรยายเกี่ยวกับระบบควบคุมการเดินรถจากศูนย์กลาง (Centralized Traffic Control หรือ CTC) ที่ตั้งอยู่ที่อาคารสถานีขอนแก่น ทำหน้าที่ควบคุมระบบอาณัติสัญญาณ ที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่สถานีชุมทางถนนจิระ ถึงสถานีขอนแก่น ซึ่งระบบนี้ยังสามารถจัดตารางการเดินรถ (Time table) และ การเตรียมทางอัตโนมัติ (Automatic route setting) เพื่อทดแทนผังควบคุมการเดินรถแบบเดิมของการรถไฟฯ โดยปัจจุบันการรถไฟฯ มีระบบ CTC นี้ อยู่ที่อาคารศูนย์ควบคุมบางซื่อ และอาคารสถานีขอนแก่น ซึ่งในอนาคต จะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่การเดินรถทั่วประเทศต่อไปรวมทั้งโครงการพัฒนาที่ดินเชิงธุรกิจบริเวณย่านสถานีรถไฟขอนแก่น ซึ่งมีเป้าหมายในการนำพื้นที่มาสร้างรายได้ให้กับองค์กร
นอกจากนี้ ยังลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ย่านกองเก็บ สถานีหนองตะไก้เป็นจุดสำคัญในการขนส่งสินค้าภายในประเทศของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) ด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ผู้บริหารช่วยกันวางแผนการใช้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ที่จะดำเนินการแล้วเสร็จในระยะเวลาอันใกล้นี้ ให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด
“เราจะพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทยให้เติบโตต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียนให้ได้โดยเร็ว เพราะรถไฟ เป็นเส้นเลือดใหญ่ในการเดินทางคมนาคมที่สำคัญของพี่น้องประชาชน” นายวีริศกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี