OMODA C5 EV รถครอสโอเวอร์ พลังงานไฟฟ้า 100% จากแดนมังกร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนวัตกรรมรุ่นใหม่ และเทคโนโลยีล้ำสมัย ภายใต้แบรนด์ Chery Automobileที่เปิดตัวในเมืองไทย ด้วยค่าตัวเริ่มต้นเพียง 8.99 แสนบาท!!

OMODA C5 (โอโมดา ซีไฟว์)โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED สามารถปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกด้านหน้า ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequentialไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED เสาอากาศครีบฉลาม หลังคาซันรูฟ การตกแต่งภายนอกแบบสปอร์ตแพ็กเกจ ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายไฟฟ้า ล้อ และยาง ขนาด 215/55 R18

ขณะที่ภายในตกแต่งสไตล์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว พร้อมอัดแน่นด้วย เทคโนโลยีล้ำสมัย เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต เบาะผู้ขับขี่ ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชั่นระบายอากาศ เบาะผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง ด้วยระบบไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง พร้อมติดตั้งก้านคันเกียร์ บริเวณคอพวงมาลัย ไฟเรืองแสงล้อม รอบห้องโดยสาร เลือกได้ 64 เฉดสี ระบบปรับอากาศแบบแยกอิสระ 2 โซน จอแสดงผลทัชสกรีน พร้อมมาตรวัด แบบจอโค้งแบ่งเป็นสัดส่วน 2 จอ ขนาด 24.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Android Auto และ Bluetooth ช่องต่อ USB ระบบเครื่องเสียง พร้อมลำโพง SONY 8 ตำแหน่งและฟังก์ชั่น Wireless Charger กำลังชาร์จ50 วัตต์

มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 172 กม./ชม. การชาร์จไฟฟ้ารองรับหัวชาร์จ Type 2 ติดตั้งที่ชาร์จด้านหน้ารถ ชาร์จ DC จาก 30-80% ภายในเวลา 28 นาที รวมถึงมีระบบจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอก (V2L)

ด้านมาตรฐานความปลอดภัยมาพร้อมกับ 17+1 เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ ADAS+DMS อาทิ กล้องแสดงภาพแบบ 540 องศา ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบแจ้งเตือนการออกตัว ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำระบบเตือนการออกนอกเลน ระบบป้องกันการออกนอกเลน ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา ระบบช่วยเหลือเพื่อเปลี่ยนเลน ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง ระบบควบคุมรถเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ ระบบเตือนการชนด้านหน้า -ด้านหลัง และระบบตรวจสอบลมยาง เป็นต้น

ช่วงการทดสอบ ผู้เขียนใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้า จ.นครนายกสมรรถนะโดยรวม ให้ความคล่องตัวสูง ด้วยความเป็นรถครอสโอเวอร์ ทัศนวิสัยดีมาก และด้วยแนวคิดการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบาย การใช้งานจริงของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงมีฟังก์ชั่นการขับขี่อัจฉริยะมากมาย และสิ่งที่จะเจอตลอดเวลา คือ การแจ้งเตือนว่าผู้ขับไม่สนใจการขับรถ ควรขับด้วยความปลอดภัย โดยมีทั้งเสียงและข้อความขึ้นทันทีที่หน้าจอเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับว่าผู้ขับละสายตาจากถนน!! ระบบนี้ไม่สามารถปิดได้ ต้องทำใจ แต่สามารถปิดเสียงเตือนได้เท่านั้น

โดยความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ชอบระบบกุญแจอัจฉริยะ ทันทีที่ผู้ขับเดินเข้าไปใกล้ตัวรถ พร้อมกุญแจ ระบบจะปลดล็อกทันที โดยสามารถตั้งให้ปลดล็อกฝั่งคนขับหรือทุกประตูได้และเมื่อเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้ขับพร้อมเหยียบเบรก ระบบจะสตาร์ทไฟสีเขียว READY พร้อมทำงานทันทีผู้ขับแค่เลื่อนเกียร์ตำแหน่ง D หรือ R และถ้าต้องการจอดอยู่กับที่ เพียงกด P รถก็จะจอดนิ่ง ซึ่งสะดวกสบายและปลอดภัยมาก

ในส่วนของแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงความจุแบตเตอรี่ 61 kWh ตำแหน่งการวางแบตเตอรี่ไว้ที่จุดศูนย์กลางของตัวรถ พร้อมแผ่นกันกระแทกทำให้มีความปลอดภัยสูง ส่งผลให้ตัวรถทำงานควบคู่กับระบบอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระยะทางวิ่งสูงสุด 505 กม.ต่อชาร์จ (NEDC) และ 430 กม.ต่อชาร์จ (WLTP)

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบแสดงภาพพาโนรามา 540 องศา  กุญแจ keyless สามารถสั่งเปิดแอร์ เพื่อปรับอุณหภูมิในรถให้เย็น ช่วยลดความร้อน เวลาที่จอดรถตากแดดนานๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส หรือเปิด-ปิด ฝาท้ายก็สามารถทำได้ รวมถึงมีโหมดการขับขี่ให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ ได้แก่ Eco, Normalและ Sport โดยจะปรับการตั้งค่าของตัวรถ พวงมาลัย และช่วงล่าง ให้เหมาะสมกับการขับขี่

สำหรับราคาจำหน่าย OMODA C5 EV รุ่น Long Range Plus ราคา 899,000 บาท และรุ่น Long Range Ultimate ราคา 949,000 บาท คงไม่แพงเกินไปสำหรับเทคโนโลยีที่มีให้ และความปลอดภัยที่เหนือระดับ ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ!!

นิติ โมราวรรณ