นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยในการเป็นประธานในการประกาศการลงทุนระหว่าง DAMAC Group ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ได้ก่อตั้งบริษัท EDGNEX Data Centers เพื่อมาลงทุนในประเทศไทย โดยได้ร่วมลงทุนกับบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN บริษัทชั้นนำในด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย ว่า รัฐบาลได้วางนโยบายเกี่ยวกับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เนื่องจากประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งการร่วมมือของ 2 บริษัทในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือที่มีการเชิญชวนจากการจัดงาน(โรดโชว์) ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้ นับเป็นการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ของทั้ง 2 บริษัทในประเทศไทย ที่สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการสนับสนุนและพัฒนาด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีการลงทุนกว่า 32,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาศูนย์ข้อมูล เทคโนโลยี และ AI ขั้นสูง ซึ่ง EDGNEX จะถือหุ้น 70% ในการร่วมทุน และเป็นหัวเรือใหญ่รับผิดชอบงานบริการด้านดาต้า เซอร์วิส (Data Services) ส่วน PROEN จะถือหุ้นอยู่ที่ 30%
“การลงทุนครั้งนี้จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการประมวลผลข้อมูลของประเทศไทย รองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล รวมถึงดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามายังประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับคนไทยในแง่ของงานและธุรกิจ การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้เติบโต โดยกระทรวงดีอีจะประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน”นายประเสริฐ กล่าว
นายฮุสเซน ซาจวานี ประธาน บริษัท ดาแมค กรุ๊ป (DAMAC Group) กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่จะขยายการลงทุนมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพอย่างมาก โดยบริษัทมีแผนลงทุนศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทยด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32,000 หมื่นล้านบาท เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน โดยการร่วมทุนกับกลุ่ม PROEN เปิดตัวศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์ภายใต้ชื่อ Edgnex Data Centers by DAMAC ซึ่งมีการวางแผนในการขยายกำลังการผลิตของศูนย์ข้อมูล (Data Center) ให้ถึงระดับ 100 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการลงทุนด้านขยายธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) บริษัทยังมีแผนในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมระดับอัลตราลักซ์ชัวรี่ ที่ร่วมกับแบรนด์ดัง (Branded Residence) เนื่องจากมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านการลงทุน รวมถึงบริษัทได้มีการลงทุนไปแล้วในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ทำให้มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมากที่จะดึงดูดและสร้างความโดดเด่นให้แก่ผู้ซื้อโครงการ
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN กล่าวว่าDAMAC Group ได้ร่วมทุนกับ PROENผ่านบริษัท ซีซอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) ระหว่างบริษัท แมกม่าโฮลดิ้ง คอมพะนี ลิมิเต็ด โดยกลุ่มDAMAC Group มีสัดส่วนการถือหุ้น บริษัท แมกม่าฯ 70% และ PROEN ถือหุ้น 30% ซึ่งโครงการแรกจะเป็นการลงทุนจำนวน 5 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนจำนวน 1,700 ล้านบาท แบ่งเป็น3 เฟส โดยเฟสแรก 1.68 เมกะวัตต์ บนพื้นที่พระราม 9 จะแล้วเสร็จและให้บริการได้ในต้นปี 2568 หลังจากนั้นจะทยอยให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 ทั้งนี้ศูนย์ข้อมูล Data Center ดังกล่าว จะเป็นศูนย์ข้อมูลที่เป็นกลางทางด้านเครือข่าย พร้อมรองรับมาตรฐานการใช้งานในระดับ Tier III มีความน่าเชื่อถือ และรองรับการให้บริการลูกค้าในระดับโลก โดยจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2567 นี้
ส่วนเฟสถัดไปจะมีกำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน จากนั้นมีแผนลงทุนอีก 20 เมกะวัตต์ ใน 3-4 แห่ง ระยะเวลาการลงทุนทั้งหมดจะดำเนินการภายใน 2-3 ปีหลังจากนี้ ทั้งนี้เนื่องจากคาดว่าตลาดศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยขนาดตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 14.27 พันเมกะวัตต์ ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 23.2 พันเมกะวัตต์ ในปี 2572 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 10.21%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี