วันที่ 21 ตุลาคม 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมบัญชีกลาง เร่งรวบรวมข้อมูลประเภทสวัสดิการของภาครัฐทั้งหมดและฐานข้อมูลของสวัสดิการแต่ละประเภทว่าอยู่ที่ส่วนใด ตลอดจนการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เร่งรวบรวมข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดไว้ในที่เดียว เพื่อให้สะดวกต่อการนำมาใช้งาน
โดยหลังจากรัฐบาลได้มีการโอนเงิน 10,000 บาทตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ซึ่งยังพบปัญหา และมีข้อห่วงใยในเรื่องความถูกต้องของข้อมูล เช่น ผู้ที่ได้รับสิทธิ์บางรายยากจนจริงหรือไม่ หรือเป็นผู้พิการจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องรวบรวมฐานข้อมูลเรื่องสวัสดิการของภาครัฐที่ให้กับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวไว้ที่เดียว เรื่องนี้กรมบัญชีกลางมีความเกี่ยวข้อง
ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้เร่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมด โดยส่วนตัวเข้าใจว่าเมื่อ 4-5 ปีก่อนน่าจะเคยมีการดำเนินการมาแล้วครั้งนี้ แต่อาจยังไม่เรียบร้อย เรื่องตัวเลขสวัสดิการว่ามีกี่ประเภทนั้นยังไม่มีตัวเลขในมือชัดๆว่าเท่าไร แต่เข้าใจว่าค่อนข้างเยอะ และมีกระบวนการอย่างไร แต่สุดท้ายเราต้องการที่จะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เข้ามาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ฐานข้อมูลของรัฐเป็นปัจจุบัน และถูกต้องมากที่สุด หากรัฐบาลต้องการเดินหน้าแนวคิดในการเก็บภาษีที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยก็ต้องแก้ปัญหาคอขวดเรื่องข้อมูลด้านสวัสดิการให้เรียบร้อย แก้ปัญหาข้อมูลซ้ำ ข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน และหากไม่เร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้การจะเดินหน้าคงทำได้ยาก
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการจากภาครัฐแบบเข้าเกณฑ์เกือบทุกสวัสดิการ ซึ่งคิดเป็นเงินที่ได้รับต่อเดือนสูงสุดราว 1 หมื่นกว่าบาท แต่ส่วนตัวยังไม่มีตัวเลขจำนวนรายในกลุ่มดังกล่าวว่าเท่าไร ซึ่งรัฐบาลต้องการดึงฐานข้อมูลดังกล่าวมาจัดระเบียบใหม่ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อให้ข้อมูลและตัวเลขต่างๆของรัฐถูกต้องที่สุด โดยกระทรวงการคลังยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่ากรมบัญชีกลางจะรวบรวมข้อมูลตัวเลขสวัสดิการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเสร็จเมื่อไร เพราะเพิ่งเริ่มประชุม
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นั้น ภายในเดือน พ.ย.67 จะมีการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ โดยยืนยันว่ากระบวนการดำเนินงานทั้งหมดต้องเสร็จเรียบร้อยก่อนเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ ภายในวันที่ 31 มี.ค.68 โดยเรื่องลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่งผ่านความเห็นชอบของ ครม.ที่ให้ปรับรอบเป็น 2 ปีครั้ง และจริงๆตอนนี้ล่าช้ามาจากกำหนดแล้ว เพราะมีเรื่องเปลี่ยนรัฐบาล โดยหลักการเบื้องต้นรัฐบาลต้องการเริ่มนับหนึ่ง ร่อนตะแกรงทบทวนรายชื่อผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ ส่วนเรื่องหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่จะใช้ในการเปิดรับลงทะเบียนรอบนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะข้อมูลสำคัญที่ลงลึกที่รัฐมีตอนนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ หรือตรวจสอบได้อย่างชัดเจนว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นเรื่องเงื่อนไขต้องขอไปหารือกันก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี