นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า เดือนกันยายน 2567 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 7,867 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วพบว่าเพิ่มขึ้น 760 ราย (10.69%) และทุนจดทะเบียน 22,048.51 ล้านบาท ลดลง 2,122.13 ล้านบาท (8.78%) โดยเดือนกันยายน 2567 มีนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ราย คือ บริษัท แกรนด์ เรสซิเดนซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มูลค่าทุนจดทะเบียน 1,520.00 ล้านบาท ประกอบกิจการซื้อ จัดหา รับ เช่า เช่าซื้อ ให้เช่า ถือกรรมสิทธิ์ครอบครอง ปรับปรุง ใช้ และจัดการ โดยประการอื่นซึ่งทรัพย์สินใดๆ ตลอดจนดอกผลของทรัพย์สินนั้น ประเภทธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1.ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 620 รายทุน 1,349.33 ล้านบาท 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 531 รายทุน 3,465.99 ล้านบาท และ 3.ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 374 ราย ทุนจดทะเบียน 716.75 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.88% 6.75% และ 4.75% จากจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในเดือนกันยายน 2567
สำหรับ 3 ไตรมาสที่ผ่านมา (9 เดือน : มกราคม-กันยายน) มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่สะสม 69,686 รายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 1,021 ราย (1.49%) ทุนจดทะเบียน 208,481.38 ล้านบาท ลดลง 285,890.71 ล้านบาท (57.83%) เนื่องจาก ปี 2566 มีทุนจดทะเบียนสูงสุดในประวัติการณ์เพราะมี 2 ธุรกิจที่ทุนจดทะเบียนเกิน 100,000 ล้านบาท ได้ควบรวมและแปรสภาพ และ 9 เดือน ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 5,294 ราย ทุน 11,743.07 ล้านบาท 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5,229 รายทุน 22,833.72 ล้านบาท และ 3.ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 3,212 ราย ทุน 6,526.78 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.60% 7.50% และ 4.61% จากจำนวนการจัดตั้งธุรกิจตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน
นางอรมนกล่าวอีกว่า 3 ธุรกิจที่น่าจับตามองเพราะมีอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดได้แก่ 1.ธุรกิจการออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง(ยกเว้นทางออนไลน์) ที่มีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 41 เท่า เนื่องจาก กสทช.ให้สถานีวิทยุกระจายเสียงดำเนินการขอรับใบอนุญาตกิจการกระจายเสียงภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 เพื่อนำไปประกอบการขออนุญาตดังกล่าว 2.ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น ตู้หยอดเหรียญล้างรถ ตู้หยอดเหรียญคีบตุ๊กตาและจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และตู้บริการถ่ายภาพโฟโต้บูธ จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 3.60 เท่า 3.ธุรกิจปลูกข้าวเจ้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 2.56 เท่า เนื่องจากกรมการข้าวสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกร จัดตั้งเป็นนิติบุคคล เพื่อเข้าร่วมโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร
สำหรับการคาดการณ์จดทะเบียนในไตรมาสสุดท้ายของปี จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000-23,000 ราย จากปัจจัยกระตุ้นจากการลงทุนภาครัฐ เช่น โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2568 เริ่มในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 (ตุลาคม 2567) ที่จะทยอยเริ่มโครงการ และช่วงปลายปีเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยกระตุ้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมทั้งนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ประกาศออกมาในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เช่น การผลักดันการปรับโครงสร้างหนี้การส่งเสริมและป้องการผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย การกระตุ้นเศรษฐกิจผลักดันการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการใช้จ่ายให้กับภาคเศรษฐกิจไทย และคาดว่าตลอดปี 2567 จะมีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ประมาณ 90,000-98,000 ราย
อย่างไรก็ตาม เดือนกันยายน มีการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 2,254 ราย เพิ่มขึ้น 215 ราย (10.54%) ทุนจดทะเบียนเลิก 16,611.91 ล้านบาท ลดลง 618.06 ล้านบาท (3.59%) ประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 246 ราย ทุน 414.55 ล้านบาท 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 97 ราย ทุน 2,350.40 ล้านบาท และ 3.ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 74 ราย ทุน 179.71 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10.91% 4.31% และ 3.28% ขณะที่ 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2567) มีการจดทะเบียนเลิกกิจการ จำนวน 12,246 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ลดลง 764 ราย (5.87%) ทุนจดทะเบียนเลิกสะสม 116,005.25 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 เพิ่มขึ้น 34,604.61 ล้านบาท (42.51%)
ส่วนการลงทุนประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ 9 เดือน มีจำนวน 636 ราย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 157 ราย (25%) ลงทุน 74,091 ล้านบาท 2.สิงคโปร์ 96 ราย (15%) ลงทุน 12,222 ล้านบาท 3.จีน 89 ราย (14%) ลงทุน 11,981 ล้านบาท 4.สหรัฐอเมริกา 86 ราย (13%) ลงทุน 4,147 ล้านบาท และ 5.ฮ่องกง 46 ราย (7%) ลงทุน 14,116 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี