ดร.สุปรีย์ ศรีสำราญ ผู้อำนวยการฝ่าย ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยกำลังเผชิญกับปัญหาด้านกำลังซื้อ เห็นได้จากมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกประเภททั่วประเทศในช่วง 7 เดือนของปี 2567 ที่ติดลบ 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการหดตัวแทบทุกกลุ่มทั้งในมิติของทำเล และมิติของประเภทที่อยู่อาศัย ดังนั้นตลาดที่อยู่อาศัยจำเป็นจะต้องมีปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ตลาดเติบโตได้ในอนาคต โดยโครงการพัฒนารถไฟฟ้า เป็น 1 ในตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยประคับประคองตลาดที่อยู่อาศัยในระยะถัดไป
การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) ที่มีมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่จะเชื่อมกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันหนุนการขยายตัวของเมือง ยังมีช่วยส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาก่อสร้างราว 5-6 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องโดยตรง ทั้งธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า รวมถึงก่อให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนตามมาโดยเฉพาะในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตามความต้องการอยู่อาศัยในบริเวณบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ที่มากขึ้น
น.ส.สุจิตรา อันโน นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ)มี 3 จุดเด่นได้แก่ 1) การเป็นจิ๊กซอว์สำคัญเชื่อมกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และตะวันตก เข้าด้วยกัน ทำให้การเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง และกรุงเทพฯ ชั้นใน สะดวกขึ้น อีกทั้ง ยังมีสถานีที่เป็นจุดตัดกับโครงข่ายรถไฟฟ้าอื่นๆ อีกหลายเส้นทาง ทำให้เหมาะสำหรับการต่อยอดสู่ Hub ในการเดินทางและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้หลายรูปแบบ 2) จุดเช็คอินหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเพศทุกวัย โดยมีเส้นทางผ่านทั้งสถานที่ทำงานของหน่วยงานภาครัฐโรงเรียน ย่านธุรกิจ ย่านชุมชนเก่า ย่านที่อยู่อาศัย สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านธุรกิจหลักใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้การเดินทางของคนในพื้นที่สูงขึ้นและทำให้พื้นที่โดยรอบมีศักยภาพมากขึ้น 3) การเดินทางเข้าเมืองสะดวกขึ้น ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065
นายกณิศ อ่ำสกุล นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่าหากอ้างอิงกับตลาดที่อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) คาดว่า รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจะเป็นปัจจัยทำให้ยอดขายที่อยู่อาศัยในทำเลบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ สูงขึ้นจากปีละ 5,450 ยูนิต มูลค่า 3.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 6,800 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าเกือบ 5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการควรเลือกพัฒนาที่อยู่อาศัยใน Segment ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ในแต่ละทำเลย่อยของแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกเช่น หากเป็นทำเลตลิ่งชัน-ศิริราช ควรเลือกพัฒนาคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทหรือบ้านจัดสรรราคามากกว่า 10 ล้านบาท ทำเลดินแดง-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ควรพิจารณาพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับกลางราคา 3-5 ล้านบาท และ5-10 ล้านบาท แต่หากเป็นทำเลราชเทวี-ราชปรารภ ควรพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับบนที่มีราคามากกว่า 10 ล้านบาท ขึ้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี