nn บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (4-8 พ.ย. 2567)...โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดคลายกังวลเรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากการที่อิสราเอลเตรียมเดินหน้าเจรจาอีกครั้ง ขณะที่เลขส่งออกน้ำมันดิบคาซัคสถานมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นหลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Kashagan อย่างไรก็ดี ราคายังได้รับแรงหนุนเนื่องจากตลาดคาดกลุ่มโอเปกอาจพิจารณาการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือนขณะที่ตลาดจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐฯที่จะจัดขึ้นวันที่ 5 พ.ย. 2567 รวมไปถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนระลอกใหม่ที่คาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัวมากขึ้น...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ65-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...
nn สิ้นสุดมาตรการตรึงราคาดีเซล 33 บาทต่อลิตร ตามมติ ครม. วันนี้ 31 ต.ค. 2567...ต่อจากนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) รับหน้าที่พยุงราคาดีเซลแทน ยืนยันจะพยายามคงราคาไว้ไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ภายใต้เงื่อนไขราคาน้ำมันโลกต้องไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ซึ่งก็จะดำเนินการผ่าน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง...ขณะนี้กองทุนฯ เริ่มมีสภาพคล่องดีขึ้น มีเงินไหลเข้ากว่า 7,000 ล้านบาทต่อเดือน...และเริ่มชำระหนี้เงินต้นก้อนแรกเดือน พ.ย. 2567 ที่ 139 ล้านบาท...และจะจ่ายสูงสุด เดือน ต.ค. 2568 เกือบ 3,000 ล้านบาท โดยคาดจ่ายหนี้หมดเดือนก.ย. 2571...
nn ผู้บริหารกลุ่ม ปตท. นำโดยดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (กลาง)ร่วมลงนามความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม กลุ่ม ปตท. อาทิ การดักจับใช้ประโยชน์ และกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ผลักดันโมเดลการพัฒนา Eastern Thailand CCS Hub ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ การทำธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ร่วมกันในกลุ่ม ปตท. และศึกษาการเพิ่มมูลค่าวัสดุคาร์บอน...
nn ช่วงนี้กระแส “พลังงานสีเขียว” กำลังมาแรง...ใครๆ ก็เลยบอกว่าพลังงานเดิมอย่างพวก “ฟอสซิล” กำลังจะหายไป...ยกตัวอย่างเช่น ถ่านหิน....!! จับกระแสพลังงาน...ต้องบอกอย่างนี้ครับว่า...โรงไฟฟ้าพลังงานร้อนร่วมของไทย...ล้วนใช้ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ...ซึ่งมีสัญญาอยู่อีกเกือบ 10-15 ปี...อย่างไรก็ตามก็ต้องใช้ถ่านเหินเป็นเชื้อเพลิงต่อปีอีกยาว...นอกจากนั้นในภาคการผลิตของสินค้าอุตสาหกรรม...ไล่ไปตั้งแต่ปูนซีเมนต์ยันปลากระป๋องและบะหมี่สำเร็จรูป...ก็ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลัก...ซึ่งมีราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นมากๆๆ...คิดว่าผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้เขาจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานอื่นๆ ที่มีราคาสูงกว่าหรือไง...หรือเขาจะต้องลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อให้รองรับพลังงานแบบใหม่ (พลังงานสีเขียว)ผู้ประกอบการที่ไหนเขาจะยอมเพิ่มงบลงทุน...ถ้าจะเอาเครื่องคาร์บอนเครดิตมาบีบบังคับเขา...ก็ไม่ยากเลยเพียงแค่ไปซื้อคาร์บอนเครดิตมาหักลบกลบหนี้กับที่เขาปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิต...แค่นั้นก็จบเรื่อง...!! ที่จะบอกจริงนี้คือว่าอย่าเพิ่งมองโลกสวนกับเรื่อง “NET ZERO”....เรื่องจริงมันต่างจากที่เอามาประกาศเพื่อ “เอาหน้า” กันมากนัก...
nn การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)...ฝากมาแจ้งเตือนว่า...PEA ไม่มีการส่งอีเมลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคล จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างส่งอีเมลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว...ส่วนช่องทางออนไลน์ที่ถูกต้องที่จะติดต่อกับ PEA...ได้แก่ Website : www.pea.co.thFacebook : การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA X : @pea_thailand Line : @PEAThailand...หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ โทร. 1129 PEA Contact Centerตลอด 24 ชั่วโมง...
nn หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2567...ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH (ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม) ที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบันขณะนี้มียอดจองรวมทั้งสิ้น 600 ล้านบาท....สำหรับหุ้นกู้ชุดนี้ มีอายุ 2 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7.15 ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน...ตั้งแต่ WEH มีการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรก จนถึงหุ้นกู้รุ่นปัจจุบันที่ได้ทำการเสนอขายเป็นรุ่นที่ 4...ซึ่งบริษัทฯ ได้ดูแลผลตอบแทนได้ดีสม่ำเสมอ ไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระ...nn
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี