ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) แถลงข่าว ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนกันยายน 2567 กับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) พบว่า การส่งออกมีมูลค่า 25,983.2 ขยายตัว 1.1% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 889,074 ล้านบาท หดตัว 0.8% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือนกันยายนขยายตัว 3.1% ) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 25,589.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.9% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 886,336 ล้านบาท ขยายตัว 7.8% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนกันยายน 2567 เกินดุลเท่ากับ 394.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเกินดุลในรูปของเงินบาท 2,738 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนมกราคม – กันยายน ของปี 2567 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) พบว่า ไทยส่งออกรวมมูลค่า 223,176.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3.9% และมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 7,957,895 ล้านบาทขยายตัว 8.6% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในช่วงมกราคม - กันยายนขยายตัว 4.2% ) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 229,132.8ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 5.5% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 8,264,589 ล้านบาท ขยายตัว 10.2% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมกราคม-กันยายน 2567 ขาดดุลเท่ากับ 5,956.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นการขาดดุลในรูปเงินบาท306,694 ล้านบาท
ทั้งนี้ สรท.คาดการณ์การส่งออกปี 2567 เติบโตไม่ต่ำกว่า 2% (ณ พฤศจิกายน 2567) โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ได้แก่ 1.ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ 1.1) ความการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้า มาตรการกำแพง และของสหรัฐอเมริกากับประเทศคู่ค้าที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐฯการค้า ไม่เฉพาะจีนเท่านั้น 1.2) สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางยังคงยืดเยื้อ 2.ดัชนีภาคการผลิต Manufacturing PMI ยังคงชะลอตัวในตลาดสำคัญ 3.ปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังส่งผลต่อต้นทุนภาคการผลิต 3.1) ค่าเงินบาทยังมีความผันผวน แม้ว่าจะอ่อนค่าลงมาเล็กน้อยจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจากการประชุม กนง. ครั้งล่าสุดขณะเดียวกัน FED มีแนวโน้มที่จะปรับ FED ลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 3.2) สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางทะเลเริ่มผ่อนคลายและปรับลดลงจากช่วงเวลาก่อนหน้า มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างไรก็ตามอาจต้องเฝ้าระวังหลายสัญญาณที่อาจเกิดขึ้นช่วงปลายปีอีกครั้งหนึ่ง 3.3) ราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเปลี่ยนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนธันวาคม จากความกังวลด้านอุปสงค์ที่ชะลอตัวในหลายตลาดสำคัญ อย่างไรก็ตาม ความยืดเยื้อของสงครามในตะวันออกกลางยังคงคุกรุ่นเป็นระยะส่งผลให้ทิศทางของราคายังคงมีความผันผวน 4.มาตรการทางการค้าที่ต้องเฝ้าระวัง อาทิ 4.1) การยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกข้าวของอินเดีย กระทบต่อผู้ส่งออกข้าวไทย 4.2) EUDR เลื่อนการบังคับใช้ออกไปเป็นปี 2569 กระทบราคาและการส่งมอบต่อผู้ส่งออกยางพารา
นอกจากนี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ดังนี้ 1. ต้องเฝ้าระวังค่าระวางการขนส่งสินค้าทางทะเล เนื่องจากปัจจัยหลายปัจจัย อาทิ สถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลางและความไม่แน่นอนของการเจรจาค่าแรงในท่าเรือฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกายังคงมีอิทธิพลต่อตลาดการขนส่งทางทะเล และความพยายามของสายเรือที่จะปรับเพิ่มขึ้นค่าระวางในเดือนพฤศจิกายน 2. ต้องเฝ้าระวังความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน และเตรียมความพร้อมเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน รวมถึงต้องรักษาเสถียรภาพการเงินไม่ให้แข็งค่าเร็วเกินไป และ 3. เร่งรัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในกลุ่มประเทศศักยภาพ รวมถึงการเจรจาการค้าเสรี และการทำข้อตกลงเพื่อความร่วมมือทางการค้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี