1 หมื่นบาท เฟส 2
รบ.แจกคนสูงวัย
หอค้าแนะต่อยอด
โครงการคนละครึ่ง
รมว.คลัง จ่อแจกเงินหมื่นเฟส 2 กลุ่มขาดสภาพคล่อง เผยใช้งบฯ ไม่มาก ไม่ซ้ำซ้อนกลุ่มเปราะบางเฟสแรก ด้านหอการค้าไทย หนุนแจกเป็นดิจิทัลวอลเล็ต เพิ่มเงื่อนไขใช้จ่ายคูณสอง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 14พฤศจิกายนที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยบนเวทีหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี ว่าผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินหมื่นในเร็วๆ นี้ ว่าเฟสที่1 เราให้เป็นเงินสด เพราะเป็นกลุ่มเปราะบาง แต่หลังจากนั้นเรามาดูอีกกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนไม่เยอะ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง แต่มีปัญหาสภาพคล่อง ดังนั้น เราจะคัดคนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคาดว่าเร็วที่สุดจะได้รับเมื่อไหร่ นายพิชัย กล่าวว่า เดี๋ยวจะนำหลักการเข้าหารือคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งวิธีทำนั้นไม่ยาก เมื่อถามว่าจะไม่ทับซ้อนกับกลุ่มเปราะบางในเฟสแรกใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ซ้ำหรอก เพราะต้องอยู่ในรายชื่อที่เรากำหนดไว้ ส่วนจะใช้งบประมาณเท่าไหร่เนื่องจากจำนวนคนไม่เยอะ เพียงไม่กี่ล้านคน ซึ่งเราจะใส่เงินไปตามความเหมาะสมจำเป็น
นายพิชัย กล่าวต่อว่า เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมีความจำเป็น เพราะนอกจากการเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ยังมีประโยชน์อีก 2 อย่าง คือ 1.ให้ประชาชนมีช่องทางการติดต่อภาครัฐได้อย่างถาวรในอนาคต ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะต้องค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ และ 2.ให้ประชาชนคุ้นเคยกับการใช้เงินดิจิทัลและใช้งานโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อถามถึงมาตรการลงทุน หลังจากที่นายโดนัลด์ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายพิชัย กล่าวว่า การลงทุนเป็นมาตรการที่จำเป็นสำหรับประเทศ เราแผ่วลงไปช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และได้คุยถึงปัญหารู้เรื่องแล้ว มีความพร้อม แต่ก็ต้องดูองค์ประกอบที่สนับสนุนด้วย
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขอเสนอแนะความเห็นต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วงปลายปีที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 โดยมองว่าการทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟส 2 ต่อจากเฟสแรกที่แจกเงินสด 10,000 บาทให้กลุ่มเปราะบางไปแล้วรัฐบาลสามารถแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชั่นได้ เนื่องจากประชาชนที่จะได้รับเงินในเฟสถัดไปเป็นผู้มีความพร้อมในการใช้สมาร์ทโฟน และอยู่ในสังคมเมือง ทำให้การรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งรัฐบาลยังสามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายได้ว่าต้องเป็นการซื้อสินค้าจำเป็น สินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก และไม่ใช่สินค้าที่เกี่ยวกับอบายมุข ซึ่งเป็นการกำหนดเงื่อนไขการใช้เงินได้ดีกว่าเฟสแรกที่แจกเป็นเงินสด ซึ่งยากต่อการติดตามการใช้จ่าย
ทั้งนี้ ยังเห็นสอดคล้องกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่เสนอให้การแจกเงิน 10,000 บาทในเฟสต่อไป ใช้รูปแบบเงินดิจิทัล เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบคนละครึ่ง หรืออาจใช้คำว่า คูณสอง โดยเป็นการใช้เงินประชาชนส่วนหนึ่ง และเงินของรัฐบาลอีกส่วนหนึ่ง ทำให้เม็ดเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่อีก 3 แสนล้านบาท ลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้ทวีคูณเป็น 6 แสนล้านบาท ก่อให้เกิดพายุลูกใหญ่ทางเศรษฐกิจที่ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตได้มากกว่า
ขณะเดียวกัน ยังทำให้ประชาชนใช้เงินหมื่นบาทได้คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเป็นการใช้เงินของตัวเองส่วนหนึ่ง และสร้างวินัยการใช้เงินส่วนหนึ่ง ดังนั้นการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลอาจแปลงจากดิจิทัลวอลเล็ต10,000บาท แล้วเติมเงื่อนไขคนละครึ่ง หรือคูณสองเข้าไปด้วย น่าจะเป็นเม็ดเงินที่คุ้มค่ามากขึ้น แต่สุดท้ายก็อยู่ที่คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจจะพิจารณาตามความเหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี