nn ก็เป็นอย่างที่คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...กล่าวไว้ว่า“ประเทศไทยเหมือนเศรษฐีที่ไม่มีอนาคต เศรษฐกิจไทยตอนนี้ก็ได้แต่อาศัยบุญเก่าเท่านั้น”....ก่อนหน้านี้กว่า 20 ปีเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ปีละ 6-7% เพราะมีการลงทุนสูงมาก สัดส่วนสูง 40% ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) แต่ 20 ปีให้หลังมานี้การลงทุนมีเพียง 20% ของ GDP เท่านั้น
เศรษฐศาสตร์วันหยุด...มองว่าเหตุที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียงปีละ 2-3%ก็เพราะเราพึ่งแต่จุดแข็งเดิมที่ตอนนี้เหมือนจะไม่ได้กลายเป็นจุดแข็งอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งออก ที่ตอนนี้สินค้าส่วนใหญ่ก็“OUT”ไปแล้ว ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ส่วนสินค้าเกษตรที่มีจุดแข็งก็สู้คู่แข่งอย่างเวียดนาม อินเดีย พม่า ฯลฯ ไม่ได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ข้าว....ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว ก็เน้นจะหาแต่ปริมาณ สุดท้ายก็ได้นักท่องเที่ยวแบบทัวร์“ศูนย์เหรียญ”...ส่วนนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ใช้จ่ายต่อหัวสูงๆ ก็ถูกประเทศอื่นแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไป...
20 ปี เหตุที่ทำให้เศรษฐกิจไทย(ในปีที่ไม่ได้เกิดวิกฤต)ยังเติบโตได้ในระดับต่ำ...ก็มาจากที่รัฐบาลในช่วงนั้น“เอาง่ายไว้ก่อน”....นั่นก็คืออัดเงินเข้าระบบผ่านสารพัดโครงการ“แจกเงิน”...มีทั้งแจกให้ตรงแบบยัดเงินใส่มือประชาชน....การจ่ายชดเชยให้ภาคการเกษตร การจ่ายเงินอุดหนุนการเพาะปลูก จำนำสินค้าเกษตร ประกันราคา ฯลฯ...ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็ตามมาด้วยภาระทางการคลัง และสร้างหนี้สาธารณะสะสมมาถึงวันนี้ก็ 15 ล้านล้านบาทแล้ว...ขณะที่เพดานที่หนี้สาธารณะห้ามเกินกว่านั้นคือ 18 ล้านล้านบาท...รัฐบาลชุดหนี้เข้ามาปีแรกใช้เงินงบประมาณแบบขาดดุลปีงบ’67 ไปแล้วกว่าหลายแสนล้านบาท...ปีงบ’68 ก็คงต้องขาดดุลอีกเช่นกัน...ตัวเลข 20 ปีที่ผ่านมารัฐบาลใช้งบขาดดุลปีละประมาณ 8 แสนล้านบาท...ถ้ารัฐบาลนี้อยู่อีก 3 ปี (ครบเทอม)...ใช้ตัวเลขสมมุติฐานการขาดดุลงบประมาณเดียวกันที่ 8 แสนล้านบาท...ก็เท่ากับว่าเพดานที่เหลืออยู่ 3 ล้านล้านบาท ไม่พอ...
เชื่อเหลือเกินว่าถ้าจะให้รัฐบาลนี้“รัดเข็มขัด”คงไม่มีทาง...สิ่งที่จะทำให้ไทยไม่เจอ“กับดัก”สัดส่วนหนี้สาธารณะ…ก็ต้องเบ่งตัวเลขจีดีพีให้สูงขึ้น...และสิ่งที่ต้องทำคือการเบ่งตัวเลขการลงทุนให้สูงกว่านี้ ไม่ว่าจะการลงทุนภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐ
การลงทุนภาคเอกชนนั้นหดหายไปนานมากเกือบจะ 5 ปี แล้วเพราะถูกเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย แย่งไปเพราะจุดแข็งเรื่อง“ต้นทุน”ของไทยไม่มีอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนแรงงาน พลังงาน ฯลฯ เราสูงกว่าคู่แข่งมาก...ไม่นับ“ต้นทุนแฝง”ที่ต้องจ่ายใต้โต๊ะให้กับนักการเมือง ข้าราชการอีก
ส่วนการลงทุนภาครัฐที่ดูเหมือนรัฐบาลพยายามจะเข็นโครงการขนาดใหญ่ออกมา...ทั้งโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์...แลนด์บริดจ์...ก็ต้องดูว่าสุดท้ายแล้วประชาชนคนไทยและสังคมไทยได้ประโยชน์แค่ไหน...โครงการลงทุนของภาครัฐที่จะเกิดหากไม่ตอบโจทย์เรื่องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยการลงทุนนั้นก็ไม่ได้ประโยชน์กับเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี