"ประชัย เลี่ยวไพรัตน์"ออกโรงอีกครั้งจี้แบงก์ชาติควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน อย่างน้อยต้อง 1 ดอลลาร์เท่ากับ 37 บาท พร้อมเทียบค่าไทย-เวียดนาม"ตอนนี้แพ้ยับเยิน สินค้าส่งออกไม่มีทางที่จะสู้ได้เลย เสนอให้เลิกอ้างอิงกรอบ US Dollar index ต้นตอให้โรงงานใหญ่น้อยทยอยกันปิดโรงงานหมด แล้วอุตสาหกรรม-ประเทศจะอยู่ได้ยังไง
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทเป็นตอนที่ 19 ระบุว่า การที่ผู้ว่าแบงก์ชาติมาอ้างตลอดบอกว่า จะให้เงินบาทมีความสัมพันธ์กับดอลลาร์ หรือมีอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับดอลลาร์เป็นอัตราเดียวกับประเทศใหญ่ในเครือข่ายอเมริกา โดยใช้ Dollar index เป็นหลัก ฟังดูแล้วก็มีเหตุมีผลดี ถ้าเราไม่พิจารณาว่าคู่แข่งทางการค้าของเราคือ พวกที่ไม่ใช่กลุ่มประเทศที่อยู่ในรายการ Dollar Index อันมี 6 ประเทศได้แก่ ยุโรป อังกฤษ สวีเดน แคนาดา ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์
คู่แข่งของสินค้าเกษตรเรา ได้แก่ประเทศจีน อินเดีย เวียดนาม เขมร ส่วนอุตสาหกรรมหนักเช่นเหล็กก็ได้แก่ อินเดียและจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน สำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกของไทยคู่แข่งคือจีน อินเดีย สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ สำหรับคู่แข่ง อุตสาหกรรมปูนและ clinker ของไทยก็คือ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ แบตเตอรี่ อุปกรณ์เหล็กและเครื่องจักรอื่นๆ คู่แข่งของเราก็คือ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย
ในขณะที่แบงค์ชาติ ปรับอัตราแลกเปลี่ยนของเราให้เท่ากับกลุ่มประเทศทั้ง 6 คือ ให้เงินบาทแข็งกว่าดอลลาร์ ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ประเทศคู่แข่งทางการค้า export ของเราซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 6 ประเทศนี้ เขากลับลดค่าเงินของเขาเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 10% สรุปแล้วเรามี handicap อยู่ 20% ทำให้ต้นทุนสินค้าเราสูงกว่าเขา 20% สินค้า Export ของเราไม่มีทางที่จะสู้กับสินค้านอกกลุ่ม 6 ประเทศนี้ได้เลย อันนี้เป็นเหตุให้โรงงานใหญ่น้อยทยอยกันปิดโรงงานหมด แล้วประเทศจะอยู่ได้ยังไง
ตอนนี้มันลามมาจนถึงโรงงานใหญ่ๆแล้ว SME ถูกปิดไปแล้ว สินค้าเกษตรก็ราคาตกต่ำไปแล้ว ก็ต่อไปนี้กำลังจะลามโรงงานใหญ่ๆ ซึ่งโรงงานรถยนต์ก็ปิดไปแล้ว โรงเหล็กก็ปิดไปแล้ว ต่อไปอุตสาหกรรมไทยจะอยู่ได้ยังไงถ้ายังใช้ US Dollar index เป็นหลัก เพราะฉะนั้นแบงค์ชาติต้องอย่างน้อยควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน ให้ 1 ดอลลาร์เท่ากับ 37 บาท ซึ่งเรายังมี handycap อยู่ 10% แต่ถ้าจะให้ดีก็ลดให้เต็มเท่ากับคู่แข่งเราคือ 20%
ใน 6 เดือนตั้งแต่ 24 เดือนพฤษภาคม ถึง 19 เดือนพฤศจิกายน อัตราแลกเปลี่ยนเงินดองเวียดนาม/ดอลลาร์ แทบไม่เปลี่ยน ในขณะที่เงินบาท/ดอลลาร์ แข็งขึ้นจาก 36.69 บาท เป็น 34.55 บาท หรือแข็งขึ้น ml 6 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่พฤษภาคมถึงพฤศจิกายน เงินบาท/ดอลลาร์ แข็งขึ้นมา 6% ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินดองเวียดนาม/ดอลลาร์ แทบไม่เปลี่ยน (แข็งขึ้น 0.279%)
ทุกคนมีความหวังว่าท่านผู้ว่า ธปท. จะยังรักษาเสถียรภาพเงินบาท เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองศิวิไลซ์ ตามความรับผิดชอบของตำแหน่งผู้ว่าฯ ที่ได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี