nn นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ อย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2568 ซึ่ง ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินว่าด้วยแนวนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะเรื่องการกีดกันทางการค้า จะส่งผลกระทบกับไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม...โดยในทางตรงนั้นคือ 1. ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงบางส่วน 2.การส่งออกของไทยไปยังสหรัฐมีแนวโน้มลดลง เพราะสินค้าไทยจะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% ประเมินว่า มูลค่าการค้า
ของไทยจะลดลง 3,106 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลพวงไปด้วยคืออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม ยานพาหนะโลหะสามัญและผลิตภัณฑ์จากโลหะ 3.จะเห็นการลงทุนลดลงจากสหรัฐ หรืออาจมีการถอนการลงทุนออกไปบ้าง 4.GDP ของไทยมีแนวโน้มลดลงบางส่วนได้ ส่วนผลกระทบทางอ้อม เมื่อจีนไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐได้ ชิ้นส่วนของไทยที่ส่งออกไปจีน เช่น ชิพเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในสินค้าต่างๆ จะลดลง มูลค่าการค้ากับจีนจะหายไป 49,105 ล้านบาท และ เมื่อสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 60% สินค้ากลุ่มที่จีนส่งออกไม่ได้จะทะลักเข้ามาที่ไทยแทน
ประเมินเป็นตัวเลขพบว่าการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐจะลดลง 108,714 ล้านบาท และทางอ้อมการส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานจีนและสหรัฐจะลดลง 49,105 ล้านบาท การส่งออกวัตถุดิบของไทยในห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐและจีน รวมแล้วสูงถึง 160,472 ล้านบาท มีผลทำให้ GDP ไทยหายไป 1% ในปี 2568
อีกข้อมูลที่น่าสนใจคือข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) ที่ระบุว่า การบริหารเศรษฐกิจในปี 2568 จะต้องให้ความสำคัญกับประเด็นต่อไปนี้ 1.การขับเคลื่อนการส่งออกให้ขยายตัวต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับมาตรการ การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือผลกระทบจากการยกระดับมาตรการกีดกันการค้าที่รุนแรงขึ้น 2.การปกป้องภาคการผลิตจากการทุ่มตลาด และการใช้นโยบายที่ไม่เป็นธรรม 3.การขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชน เพื่อให้เป็นส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว เร่งรัดการลงทุนในภาคการก่อสร้าง เบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย4.การดูแลเกษตร และสนับสนุนการปรับตัวในภาคการผลิตการเกษตรของเกษตรกร 5.การให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ที่ประสบปัญหาด้านการเข้าถึงสภาพคล่อง และแก้ปัญหาหนี้สิน
จากข้อมูลชุดแรกจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็ต้องบอกว่าปี 2568 เศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยเสี่ยง ผู้ประกอบการไทยยังต้องเหนื่อยอีกต่อ เพราะดูจากแนวนโยบายการบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ยังไม่เห็นมีอะไรที่เป็นรูปธรรมที่จะตอบโจทย์ 5 ข้อเสนอแนะของ สคช.ได้เลยสักข้อ สิ่งเดียวที่เห็นคือ แจกเงิน แจกเงิน แจกเงิน แล้วก็จ้องจะแจกอีกต่อไปเรื่อยๆ...ทั้งที่ก็เห็นตัวเลขภาระทางการคลัง เห็นตัวเลขหนี้สาธารณะที่มันสูงขึ้นทุกขณะ ซึ่งนักวิชาการหลายท่านก็เตือนไว้แล้วว่านี่คือระเบิดเวลาลูกใหญ่สำหรับเศรษฐกิจไทย
หากดูจากความเป็นไปของการส่งออกซึ่งเป็นเครื่องยนต์ใหญ่สุดของเศรษฐกิจที่มูลค่าจะหายไป ดูจากเรื่องภาคท่องเที่ยวซึ่งมีจีนเป็นลูกค้าหลักเมื่อเศรษฐกิจจีนรับผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐ จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามามากๆ อย่างที่หวังได้อย่างไร..!! ที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลบอกว่าจะเห็นจีดีพีไทยไปแตะระดับ 3.5% ในปี’68 นั้น ยังมองไม่ออกเลยจะไปถึงจุดได้อย่างไร และถ้ารัฐบาลยังเป็นแค่ “แจกเงิน”....พวกเราจะพากันตายกันหมดแน่ๆ...nn
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี