นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา (BSRC) หรือบีเอสอาร์ซี เปิดเผยว่า บีเอสอาร์ซีดำเนินธุรกิจโรงกลั่นปิโตรเลียมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจร โดยหลังจากโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น และเปลี่ยนชื่อ บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) เป็น บริษัท บางจาก ศรีราชา หรือ บีเอสอาร์ซี ครบ 1 ปี ได้เพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นจาก 130,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 154,200 บาร์เรลต่อวันในไตรมาส 2 ของปีนี้ และรับรู้ผลประโยชน์จากการร่วมมือกันกว่า 4,400 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปีนี้ และคาดว่าภายในสิ้นปี 2567 นี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท จากการเพิ่มการผลิตการลดค่าใช้จ่ายและการปรับปรุงระบบการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเพื่อส่งถึงมือลูกค้า

ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้าปรับภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันให้ทันสมัยภายใต้แบรนด์บางจาก ซึ่งปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 95% และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2567 พร้อมเดินหน้าปรับภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันโดยได้นำผลิตภัณฑ์เกรด Premium มาจำหน่าย และหาโอกาสในการขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมถึงอีกส่วนจะนำไปลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) โดยในปี 2568 จะพิจารณาและคัดสรรร้านค้า สินค้าและบริการเพื่อนำไปจำหน่ายในสถานีบริการเพิ่มเติม 500-700 สาขา

ขณะที่ปี 2568 บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณางบลงทุน เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น และพัฒนาสถานีบริการน้ำมัน เบื้องต้นกำลังอยู่ในการพิจารณาอย่างรอบด้าน เนื่องจากสถานการณ์พลังงานในปีหน้ายังคล้ายกับปีนี้ คือ ยังอยู่ในภาวะผันผวน จากเศรษฐกิจโลกที่ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ดีมานด์ไม่ชัด

“เงินลงทุนต่อไปเราจะเน้นไปที่ธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำมันซึ่ง มองว่าค่าการกลั่นอาจจะอยู่ในระดับเดียวกับปีนี้แต่จากการลงทุนพัฒนาโรงกลั่นของเรานั้นจะทำให้มีศักยภาพที่ดีขึ้นขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า สถานการณ์บ้านเมืองอาจจะไม่เอื้อต่อการลงทุน การทำแผนลงทุนนั้นเราก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น และจะต้องลงทุนเพื่อให้สามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้ด้วย โดยเรายืนยันว่าโรงกลั่นศรีราชา และโรงกลั่นพระโขนงของบางจากนั้นจะสามารถเดินหน้าเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อไป” นายบัณฑิต กล่าว

นายบัณฑิตกล่าวว่า สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันของไทยช่วงปลายปีซึ่งถือเป็นไฮซีซั่น เนื่องจากใกล้เทศกาลปีใหม่ช่วงวันหยุดยาว พบว่า เดือนพฤศจิกายน ยอดการจำหน่ายน้ำมันเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ และดีเซล สะท้อนภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว แต่ก็ต้องติดตามในภาพรวมตลอดปีหน้าอีกครั้ง นอกจากนี้บีเอสอาร์ซี ยังรอความชัดเจนจากกฎหมายสำรองน้ำมันฉบับใหม่ ของกระทรวงพลังงาน หากมีความชัดเจนแล้วตามขั้นตอนจะมีการเปิดรับฟังความเห็นจากภาคเอกชน ซึ่งบีเอสอาร์ซีก็ขอดูรายละเอียดและให้ความเห็นต่อไปคาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะเกิดประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศ