เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 26 พ.ย. 67 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/2567 โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายกฯกล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือว่าเป็นการประชุมครั้งแรกของตน และน่าจะเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ ได้มีการหาข้อมูลและได้พูดคุยกับทีมงาน คิดว่าเป็นการประชุมที่ทำได้เร่งรัดอยู่แล้ว มีไม่กี่เรื่องที่ตนจะขอแจ้งเล็กน้อย คือในเรื่องของพลังงาน อยากให้ทุกท่านช่วยกันดูเรื่องของราคา เพราะราคามีผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชน และถือเป็นต้นทุนในหลายๆอย่าง ทางเศรษฐกิจของครัวเรือน และที่ไปประชุมต่างประเทศทุกประเทศให้ความสนใจเรื่องของพลังงานสะอาดเป็นอย่างมาก ฉะนั้นขอให้โฟกัสตรงนี้มากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุนต่างๆให้เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนด้วย ขอให้เน้นย้ำในเรื่องนี้เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ในเรื่องการขับเคลื่อนหรือการขยายทางด้านของพลังงานสะอาด ถ้ามีแพลนอย่างไรก็ขอให้ไม่ช้าต่อแผนที่วางไว้ทุกอย่าง จะได้เป็นไปตามกระบวนการ และในเรื่องของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานให้เร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกและการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของรูปแบบการขายพลังงานโดยตรง หรือที่เรียกกันว่าการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) ซึ่งในเรื่องของราคาขอให้พร้อมในการแข่งขันได้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้ข่าวว่าที่ประเทศมาเลเซียก็ค่อนข้างแพง ก็ขอให้เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างอยู่ในโซนที่เราสามารถแข่งขันได้ ขอฝากไว้ให้คิดมาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี