“เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป” บริษัทส่งออกทุเรียนเกรดพรีเมี่ยม และผลไม้ตามฤดูกาล อยู่ระหว่างการจัดเตรียมไฟลิ่งเพื่อเสนอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แต่งตัวเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2568 ขยายการเติบโต ยกระดับผลไม้ไทยสู่อุตสาหกรรมระดับสากล การันตีเป็น OEM ผลิตทุเรียนเจ้าเดียวในไทยให้ Dole ผลงานที่ผ่านมาเติบโต คาดปิดงบ 1,000 -1,200 ล้านบาท
นายวิชัย ศิระมานะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำการส่งออกผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อเป็นเงินทุนในการขยายกิจการ พัฒนาสินค้า และโครงการสำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัท เพิ่มโอกาสทางการค้าและการต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยอยู่ระหว่างการจัดเตรียมไฟลิ่งเพื่อนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจส่งออกผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยมสู่ตลาดต่างประเทศ โดยบริษัทเริ่มจากการส่งออกลำไย ทุเรียน มะพร้าวและผลไม้อื่นๆ ไปประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกหลัก โดยทำการตลาดในประเทศจีนภายใต้ 4 แบรนด์ ได้แก่ เหม่ย ลี่ (Mei Li), ไท่ จี้ (Tai Ji), จิน เยี่ยน (Jin Yan) และไท่ ถิง ห่าว (Tai Ting Hao) ในตลาดสำคัญตามเมืองต่างๆ อาทิ กวางเจา (Guangzhou) เจียซิง (Jiaxing) และปักกิ่ง (Beijing) ซึ่งแบรนด์สินค้า 3 ใน 4 แบรนด์ของบริษัทติดท็อป 5 แบรนด์ผลไม้ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศจีน
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าแบ่งเป็น สินค้าประเภททุเรียน 90% มีกำลังการผลิตปีละ 500 ตู้ ตู้ละ 16-18 ตัน หรือประมาณ 16,000-18,000 กิโลกรัมต่อตู้ สินค้าประเภทลำไย 8% กำลังการผลิตปีละ 300 ตู้ ตู้ละ 24-25 ตัน หรือประมาณ 24,000-25,000 กิโลกรัมต่อตู้ และอีกประมาณ 2% เป็นสินค้ามะพร้าว และผลไม้อื่นๆ โดยมีพันธมิตรผู้ผลิตผลไม้จำนวน 10 โรงงาน ตั้งอยู่ใน 5 จังหวัดสำคัญของแต่ละภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดลำพูน และจังหวัดราชบุรี
นอกจากนี้ ปัจจุบัน NTF ยังได้รับความไว้วางใจจาก Dole ผู้ผลิตและจำหน่ายผักผลไม้สดและแปรรูประดับโลก ในการให้ NTF รับหน้าที่ผลิตผลไม้ประเภททุเรียนเกรดพรีเมี่ยม (OEM) เจ้าเดียวในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปประเทศจีนเพื่อช่วยเติมเต็มตลาด เช่นเดียวกับประเทศเวียดนามที่แข่งขันด้านคุณภาพสินค้ามากกว่าด้านราคาเช่นที่ผ่านมา
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมการส่งออกทุเรียนไทยไปประเทศจีนต่อจากนี้ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางถึงระดับสูงที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและรสชาติ สะท้อนตลาดที่ยังเปิดกว้างสำหรับผู้ส่งออกไทย จากข้อมูลล่าสุด ณ 9 เดือนปี 2567 มีมูลค่าการส่งออกทุเรียนไทยรวมประมาณ 130,000 ล้านบาท ใกล้เคียงมูลค่าส่งออกทุเรียนทั้งปี 2566 ซึ่งการส่งออกของ NTF ในขณะนี้คิดเป็นเพียง 1% ของตลาดส่งออกทุเรียนทั้งหมดเท่านั้น
ทั้งนี้ การดำเนินงานของ NTF ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สามารถสร้างผลการดำเนินงานเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่อง ปี 2563 บริษัทมีรายได้จำนวน 14 ล้านบาท ต่อมาปี 2564 มีรายได้ 184 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้ 351 ล้านบาท และปี 2566 มีรายได้ 561 ล้านบาท ส่วนในปี 2567 บริษัทคาดการณ์รายได้ไว้ที่ 1,000 -1,200 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี