รู้แล้วอึ้ง! ‘ดร.สามารถ’กางตัวเลขขยายสัมปทาน‘ทางด่วนศรีรัช’ เอกชนฟาดกำไรเท่าใด
27 พฤศจิกายน 2567 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte” ระบุว่า...
รู้แล้วอึ้ง ! ขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช
เอกชนได้เงินค่าผ่านทางเท่าใด ?
ผู้สนใจหลายคนอยากรู้ว่าเอกชนผู้รับสัมปทานจะได้รับเงินค่าผ่านทางจากการขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน เป็นจำนวนเท่าใด ?
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ให้สัมปทานทางด่วนศรีรัชแก่เอกชนเป็นระยะเวลาดังนี้
(1) เริ่มต้นให้สัมปทาน 30 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2533 จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563
(2) ขยายสัมปทานครั้งที่ 1 ออกไป 15 ปี 8 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2578
(3) กำลังจะขยายสัมปทานครั้งที่ 2 ออกไป 22 ปี 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2578จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2601
จากสมมติฐานที่ใช้ในการประมาณการรายได้ และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถคำนวณรายได้ค่าผ่านทางได้ทั้งของ กทพ. และของเอกชน
สมมติฐานที่ใช้ในการคำนวณรายได้ค่าผ่านทางมีดังนี้
(1) ช่วงระยะเวลาในการคำนวณอยู่ระหว่างปี 2568-2601 ซึ่งปี 2568 เป็นปีแรกที่จะเริ่มใช้สัญญาใหม่ (หากมีการขยายสัมปทานครั้งที่ 2) ส่วนปี 2601 เป็นปีสุดท้ายของการขยายสัมปทานครั้งที่ 2 ออกไป 22 ปี 5 เดือน (นับจากปี 2578 เนื่องจากการขยายสัมปทานครั้งที่ 1 ซึ่งเริ่มในปี 2563 จะสิ้นสุดลงในปี 2578)
(2) อัตราค่าผ่านทางเป็นไปตามที่ กทพ.กำหนด โดยมีการปรับเพิ่มแบบคงที่ทุก 10 ปี
(3) สัดส่วนการแบ่งรายได้ระหว่าง กทพ.กับเอกชน
ก. รายได้จากทางด่วนเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) และทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ส่วน A (ถนนรัชดาภิเษก-ทางแยกต่างระดับพญาไท-ถนนพระราม 9) และส่วน B (ทางแยกต่างระดับพญาไท-บางโคล่) เป็นของ กทพ. 50% และของเอกชน 50%
ข. รายได้จากทางด่วนศรีรัช ส่วน C (ถนนรัชดาภิเษก-ถนนแจ้งวัฒนะ) และส่วน D (ถนนพระราม 9-ถนนศรีนครินทร์) รวมทั้งทางด่วนอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) เป็นของเอกชนทั้งหมด 100%
การคำนวณรายได้ในช่วงระยะเวลาปี 2568-2601 พบว่ามีรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมดประมาณ 5.6 แสนล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ของ กทพ.ประมาณ 2.1 แสนล้านบาท และของเอกชนประมาณ 3.5 แสนล้านบาท นั่นคือเอกชนได้รายได้มากกว่า กทพ.ถึง 67%
ถ้าไม่มีการขยายสัมปทานครั้งที่ 1 ในปี 2563 ที่ผ่านมา และที่เตรียมจะขยายสัมปทานครั้งที่ 2 อีกในเร็วๆ นี้ รายได้ทั้งหมดก็จะตกเป็นของ กทพ.
แล้วจะขยายสัมปทานไปอีกทำไม ?
…………………………………………………
หมายเหตุ: ข้อสงสัยดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นข้อกังขาที่ผมและประชาชนทุกคนชอบที่จะต้องขอคำชี้แจงให้สิ้นสงสัยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นเท่านั้นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี