ll บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (2-6 ธ.ค. 2567)....โดยระบุว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับเพิ่มเล็กน้อยหลังได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดคาดสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสชะลอแผนการปรับเพิ่มการผลิตออกไปต่อเนื่องเนื่องจากอุปสงค์น้ำมันโลกยังคงชะลอตัว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวส่งผลให้ตลาดคาดเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องขณะเดียวกัน ราคายังได้รับแรงสนับสนุนจากสถานการณ์ในยุโรปตะวันออกระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ตลาดคลายความกังวลเรื่องสงครามในตะวันออกกลางเนื่องจากอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์สามารถบรรลุข้อตกลงยุติหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน รวมถึงทิศทางของราคาพลังงานสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ส่งผลให้ต้นทุนพลังงานปรับเพิ่มขึ้นและอาจกดดันความต้องการใช้น้ำมันสหรัฐฯ...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 65-75เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล....ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 68-78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...
ll กระทรวงพลังงาน...ระบุว่านโยบายด้านพลังงานที่สำคัญของไทยในปี 2568...จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้ามาจากก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 60% และมีสัดส่วนพลังงานสะอาด ประมาณ 26%...ในการจัดทำร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ หรือ PDP2024 ภายในปี 2580 สัดส่วนของก๊าซธรรมชาติจะลดลงเหลือ 41% และสัดส่วนพลังงานสะอาดจะเพิ่มเป็น 51%....ทิศทางการส่งเสริมพลังงานสะอาดเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเตรียมพร้อมที่จะเป็น Digital Hub ของอาเซียน ซึ่งการที่นักลงทุนหลายรายสนใจที่จะลงทุนในโครงการ Data Center และ Cloud Service เห็นได้จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รวม 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 167,989 ล้านบาท เพราะเรามีการเตรียมความพร้อมเรื่อง Direct PPA กว่า 2,000 เมกะวัตต์ รวมถึงนโยบายไฟฟ้าสีเขียว Utility Green Tariff เอาไว้ เพราะสิ่งที่นักลงทุนต้องการคือ ไฟฟ้าสะอาด ทั้ง 100% หรือ RE100 และต้องเป็นไฟฟ้าที่มีคุณภาพ จึงเป็นความท้าทายของ 3 การไฟฟ้า ทั้ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ว่าจะทำอย่างไรให้ไฟฟ้าที่ใช้มีความมั่นคงและมีคุณภาพ ไม่มีไฟฟ้าตกหรือดับ พร้อมจ่ายไฟฟ้าตลอดเวลา ในขณะที่ต้นทุนค่าไฟฟ้า นักลงทุนมองเป็นเรื่องที่มีความสำคัญรองลงไป…ส่วนเรื่องการจัดหาแหล่งพลังงานใหม่ในประเทศ โดยการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม แปลงบนบก รอบที่ 25 คาดว่าจะมีปริมาณทรัพยากรน้ำมันดิบ ประมาณ 5.76 ล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 20.7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต มีเงินลงทุนในการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมไม่น้อยกว่า 73.75 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ จะมีการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 26 ในทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งมีหลายบริษัทให้ความสนใจเพราะเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะพบปิโตรเลียม และพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา หรือ OCAที่กำลังอยู่ในความสนใจและเชื่อว่ามีศักยภาพที่จะพบปิโตรเลียม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับแหล่งเอราวัณที่มีการผลิตปิโตรเลียมอยู่ในปัจจุบัน ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน...การที่ไทยต้องพึ่งพาพลังงานนำเข้าถึง 75% ทำให้ราคาน้ำมันหรือ LNG ตลาดโลก ที่มีปัจจัยจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลต่อราคาในประเทศ ดังนั้นการที่เรามีแหล่งพลังงานในประเทศเพิ่มขึ้น จะช่วยลดการนำเข้า และช่วยลดต้นทุนราคาค่าไฟฟ้าลงได้...
ll สถานการณ์เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ณ วันที่ 24 พ.ย. 2567 พบว่า เงินกองทุนฯ ติดลบลดลงเหลือ -85,997 ล้านบาท โดยมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -38,636 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบรวม -47,361 ล้านบาท...จะเห็นได้ว่ากองทุนฯ เหลือเงินติดลบน้อยลงต่ำกว่าระดับ 1 แสนล้านบาท ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2567 ที่เคยติดลบระดับ 1.01 แสนล้านบาท โดยตลอดปี 2567 นี้ มีช่วงที่เงินกองทุนฯ ติดลบน้อยที่สุดคือ เดือน ม.ค. 2567 เงินกองทุนฯติดลบรวม -80,101 ล้านบาท และสูงสุดในเดือน ก.ค. 2567 ที่เงินกองทุนฯ ติดลบสูงถึง 111,663 ล้านบาท...การที่เงินกองทุนฯติดลบน้อยลง เกิดจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลง ส่งผลให้กองทุนฯ สามารถหยุดชดเชยราคาดีเซลและหันกลับมาเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ดีเซลเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ ลดปัญหาภาระหนี้กองทุนฯ ลงได้บ้าง โดยปัจจุบันคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้เรียกเก็บเงินทั้งผู้ใช้น้ำมันดีเซลและกลุ่มเบนซินส่งเข้ากองทุนฯ ดังนี้ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ส่งเข้าถึง 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ อยู่ที่ 31.52 ล้านลิตรต่อวัน)...ส่วนผู้ใช้น้ำมันดีเซลและดีเซล B20 ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ 1.18 บาทต่อลิตร และดีเซลเกรดพรีเมียมส่งเข้ากองทุนฯ 2.68 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลรวมอยู่ที่ 66.74 ล้านลิตรต่อวัน)...ll
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี