นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดเชียงราย ณ ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย โดยมีนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ด่านศุลกากร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเชียงราย เพื่อเร่งทำงานเชิงรุก ส่งเสริมการค้าชายแดน-ผ่านแดน รับฟังข้อเรียกร้องภาคเอกชนแก้อุปสรรคการค้า ยกระดับศักยภาพท่าเรือเชียงแสนรองรับการค้ากับจีน กำชับศุลกากรป้องกันสินค้านำเข้าด้อยคุณภาพ
นายพิชัย กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของการค้าชายแดน ตนได้รับรายงานจากกรมการค้าต่างประเทศว่าช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม–ตุลาคม) การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยมีมูลค่าการค้ารวม 1,514,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็นการส่งออก 872,043 ล้านบาท (+5.64%) และการนำเข้า 642,794 ล้านบาท (+6.92%) โดยไทยได้ดุลการค้าถึง 229,248 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ มีเป้าขยายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนให้เติบโตขึ้นไปเป็น 2 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในปี 2570 ภายใต้ ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567-2570 ซึ่งปัจจุบัน มีจุดผ่านแดนฝั่งไทยเปิดแล้ว 86 แห่ง จากทั้งหมด 94 แห่ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเปิด 73 แห่ง
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำถึงการทำงานเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจในพื้นที่ เพื่อเปิดประตูการค้าของไทยทั้งในตลาดเดิมและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และพิจารณาการยกระดับศักยภาพของท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เพื่อรองรับการค้ากับประเทศจีน ตามข้อเสนอของสภาหอการค้าจังหวัดเชียงราย โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยประสานงานกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาความคุ้มค่าของการลงทุน และมอบหมายกรมการค้าต่างประเทศติดตามความคืบหน้า เนื่องจากท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เป็นเส้นทางการค้าที่มีศักยภาพเนื่องจากสามารถเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน (สปป.ลาว เมียนมา และจีน)โดยในปี 2567 (มกราคม-ตุลาคม) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนรวม 5,962 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้น 21.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 5,650 ล้านบาท และการนำเข้า312 ล้านบาท และจะเป็นเส้นทางขนส่งผลไม้ที่สำคัญ เนื่องจากจีนได้เห็นชอบให้ด่านกวนเหล่ย เป็นด่านรองรับผลไม้ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567ที่ผ่านมา
นายพิชัยกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ขอทำหน้าที่ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดนไทยกับเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ โดยในปี 2568 จะมีการจัดมหกรรมการค้าในพื้นที่จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและจังหวัดชายแดนหรือระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค รวม 6 ครั้ง และจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเปิดด่านตรงข้ามกับที่ฝั่งไทยเปิดแล้วหรือมีความพร้อมที่จะเปิดด่านอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับประเทศ
“กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ส่งเสริมให้เอกชนค้าขายได้ดีขึ้น พร้อมช่วยผลักดันเพื่อเพิ่มการลงทุน ขอให้ภาคเอกชนที่ต้องการการสนับสนุนเตรียมข้อมูลให้กับทางรัฐบาลจะได้ซัพพอร์ตให้เต็มที่ในการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าให้ภาคเอกชน เรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนทันทีและยินดีที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายพิชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี