‘นายกฯอิ๊งค์’สั่งรัฐบาลปรับแผนแก้ไข 4 เรื่อง หวังดึงดูดทุนต่างประเทศ หลัง‘ทรัมป์’ปรับนโยบายการค้าในอาเซียน ปรับปรุงกฎหมาย-พัฒนาที่ดินรองรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการค้าการลงทุน ว่า จากการที่นายกรัฐมนตรี ได้พบกับนักลงทุน ทั้งในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ และการพบกับสมาคมการค้าและภาคธุรกิจต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงโอกาสของประเทศไทยที่จะดึงดูดนักลงทุน ภายใต้สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ (GEOPOLITICS) โดยเฉพาะนโยบายทางการค้าของประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่เร่งให้บริษัทจำเป็นต้องเร่งปรับตัวและปรับแผนในการลงทุนในภูมิภาค ASEAN
ขณะเดียวกัน ก็ได้รับฟังถึงความท้าทายและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข จึงได้ฝากเรื่องที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน 4 เรื่อง เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนี้
1) การพัฒนาพื้นที่สำหรับรองรับการลงทุน โดยเฉพาะการจัดสรรและพัฒนาที่ดินให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่
2) ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องการพลังงานหมุนเวียนสะอาด (Direct PPA)
3) มาตรการรองรับ Global Minimum Tax ซึ่งจำเป็นต้องออกกฎหมายให้ทันการบังคับใช้ในปี 2568 ทั้งในส่วนของการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำและมาตรการด้านสิทธิประโยชน์
4) การแก้ไขกฎระเบียบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจหรือ Ease of Doing Business เช่น การผ่อนปรนเงื่อนไขการจ้างงานชาวต่างชาติของกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทักษะสูง โดยมอบหมายให้ BOI จัดทำรายละเอียดมาตรการ ผ่านรองนายกฯ พิชัย เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี