จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นในเขตภาคใต้ ในหลายจังหวัดทำให้หลายภาคส่วนเร่งระดมความช่วยเหลือลงไปในพื้นที่โดยเฉพาะภาคการเงินซึ่งต่างออกมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูในระยะยาว ซึ่งล่าสุดนางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในเขตภาคใต้ ทำให้ประชาชนและลูกหนี้ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนนั้น ธปท. ได้กำชับให้สถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่มิใช่สถาบันการเงิน พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยโดยเร่งด่วน โดย ธปท. ได้มีแนวทางให้เจ้าหนี้สามารถปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิต การเพิ่มวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือเพื่อให้ประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจต่อได้ โดยในระหว่างการให้ความช่วยเหลือธปท.ได้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์และกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับสถานการณ์สาธารณภัยไว้แล้ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยจะได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินการผ่าน “โครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย” จำนวน 2 มาตรการ และ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ ปี 2567” จำนวน 5 มาตรการ เช่นลูกหนี้ปัจจุบัน ธอส.จะลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยพักชำระหนี้ นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิมวงเงินกู้สูงสุด ต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0% เดือนที่ 1-3 เท่ากับ 0% ต่อปี ลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลา ไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก ลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีโดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน6 เดือนแรก ฯลฯ
ด้านธนาคารออมสิน ได้ชุดมาตรการพักหนี้และสินเชื่อ โดยมาตรการลดภาระหนี้ ได้แก่ การให้ลูกหนี้ธนาคารออมสินในพื้นที่ประสบภัยฯ พักชำระเงินต้น และธนาคารไม่คิดดอกเบี้ย จนถึงเดือนมีนาคม 2568 ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อรายย่อย สินเชื่อบุคคล และ SMEs ที่เป็นลูกหนี้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท, ด้านมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเร่งด่วน ประกอบด้วย สินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้ประสบภัยพิบัติ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทต่อ สินเชื่อต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ประสบภัยพิบัติ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อฟื้นฟูกิจการจากเหตุอุทกภัย
สำหรับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ผู้ประกอบการ SMEsผู้ประสบอุทกภัย และมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ บสย.จะพักชำระค่าธรรมเนียมและค่าจัดการค้ำประกัน 6 เดือน ให้กับลูกค้าของบสย. และพักชำระค่างวด 6 เดือน สำหรับลูกหนี้ บสย. ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ ระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน
ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้จัดทำมาตรการช่วยลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนและผลผลิตได้รับความเสียหายจนส่งผลกระทบต่อรายได้ โดยลูกค้าสามารถ เลื่อนระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับ และยังได้จัดทำมาตรการฟื้นฟูและเสริมสภาพคล่อง โครงการคือ 1.โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน 50,000/ราย 2.โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรรอบใหม่ ไม่เกิน 500,000 บาท/ราย
ด้านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้า เช่น 1.เพิ่มทุนและโอกาสฟื้นฟูกิจการ เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว สูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม 2.พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือนปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปีแรกลง 0.50% หรือ จ่ายดอกเบี้ยเพียง 50% ในช่วง 6 เดือนแรก 3.ขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงิน สูงสุด 180 วันขยายระยะเวลาเงินกู้ สูงสุด 7 ปี
ส่วนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ออกมาตรการ พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าสำหรับกลุ่มเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน สัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) และสินเชื่อแฟคตอริ่ง ขยายระยะเวลาชำระตั๋วสัญญาใช้เงินออกไปอีกสูงสุด 180 วัน และสามารถพักชำระดอกเบี้ยได้ และปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉิน นำไปฟื้นฟูธุรกิจเฉพาะหน้า วงเงินกู้ 10% ของวงเงิน อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี ระยะเวลากู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน ฯลฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี