นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์หารือกับนายเริ่น เจิ้นเฮ่อ (Mr. REN Zhenhe) ผู้ว่าการมณฑลกานซู่ และร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนาม MOU ด้านความร่วมมือด้านการค้าระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับกรมพาณิชย์มณฑลกานซู่ โดยนางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และนายหยาง เสี่ยวผิง (Mr. Yang Xiaoping) อธิบดีกรมพาณิชย์มณฑลกานซู่ ณ ห้องพาณิชย์สัมพันธ์ ชั้น 11 กรมส่งเสริมการค้าฯ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่สนใจดำเนินธุรกิจในตลาดมณฑลกานซู่และภาคตะวันตกของจีน ขยายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทยและจีนในภาพรวม
นายพิชัย กล่าวว่า มณฑลกานซู่ถือเป็นหนึ่งในมณฑลที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากตั้งอยู่ในจุดกึ่งกลางของประเทศจีน ทำให้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ ภายใต้เส้นทางระเบียงการค้าเชื่อมทางบกและทางทะเลระหว่างประเทศสายใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor - ILSTC) เป็นประตูการค้าที่สามารถทำให้สินค้าไทยขยายไปสู่ตลาดในมณฑลทางภาคตะวันตก
ของจีนได้อย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น
การลงนาม MOU ความร่วมมือฉบับใหม่ ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกรมพาณิชย์มณฑลกานซู่ มีสาระสำคัญ คือ 1.การแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายและมาตรการสนับสนุนสำหรับ SME โอกาสทางการค้าการลงทุน การจัดตั้งกิจการร่วมค้า 2.การส่งเสริมความเชื่อมโยงธุรกิจ ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า 3.การอำนวยความสะดวก เช่น การสัมมนา การประชุมทางธุรกิจ การจับคู่ธุรกิจ งานแสดงสินค้า การจัดคณะผู้แทนการค้า แบ่งปันข้อมูล ความรู้ ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพและเทคโนโลยี 4.ความร่วมมือในการขยายผลประโยชน์ทางการค้าร่วมกัน ในสินค้าและบริการหลัก เช่น อาหาร การเกษตร และโลจิสติกส์ เป็นต้น 5.ความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ การจับคู่ธุรกิจออนไลน์ และกิจกรรมอื่นๆ โดย MOU ฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้ 3 ปี
สำหรับปี 2568 ถือเป็นปีครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีน สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในประเทศจีน จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในมณฑล เมืองต่างๆ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และขอขอบคุณ ผู้ว่าการมณฑลกานซู่ที่สนับสนุนให้นำสินค้าไทยเข้าร่วมงาน Lanzhou Investment & Trade Fair พร้อมกันนี้ได้เชิญนักธุรกิจกานซู่ที่ต้องการนำเข้าสินค้าไทย ให้มาร่วมชมงานแสดงสินค้า ที่ไทยมีกำหนดจัด 6 งาน ได้แก่ 1.Bangkok Gems & Jewelry Fair (กุมภาพันธ์ และกันยายน) 2.Thaifex-Horec Asia 2025 (มีนาคม) 3.STLYE Bangkok 2025 (เมษายน) 4.TAPA 2025 (เมษายน) 5.Thaifex-Anuga Asia 2025 (พฤษภาคม) 6.Tilog-LogistiX 2025 (สิงหาคม) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการค้า การลงทุน ผู้ประกอบการของไทยต่อไป
มูลค่าการค้าระหว่างกานซู่-ไทย ในปี 2566 มีมูลค่า 127.26 ล้านเหรียญสหรัฐ (4,363.61 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 326% แบ่งเป็นการส่งออกไปไทยมูลค่า 47.64 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,640.40 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 63.89% และการนำเข้าจากไทย 79.62 ล้านเหรียญสหรัฐ (2,723.21 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9,812.64% สินค้านำเข้าส่งออกสำคัญของไทยไปกานซู่ ได้แก่ 1.เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ 2.เมล็ดพืชและผลไม้ที่มีน้ำมัน เมล็ดธัญพืช เมล็ดพืชและผลไม้ 3.ผลไม้และลูกนัท 4.พืชผักรวมทั้งรากและหัวบางชนิด 5.บอยเลอร์เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี