สภาองค์กรเพื่อผู้บริโภคฯ เล็งยื่นโนติสถึง กสทช. หลังดีลทรู-ดีแทค ทำประชาชนถูกลอยแพมากว่า 2 ปี ไม่เคยได้รับประโยชน์ใดจากการรวมธุรกิจของค่ายมือถือ
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การที่มีรายงานข่าวจากสื่อมวลชนว่าทรูขอให้สำนักงาน กสทช. ทำเรื่องเสนอบอร์ดให้ลงมติลดระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการเยียวยาจาก 10 ปีเป็น 5 ปี น้้น สภาฯ อยากจะให้ความเห็นว่าปัจจุบันตลาดโทรคมนาคมก็เหลือผู้เล่นรายใหญ่เพียง 2 ราย ดัชนีการกระจุกตัวและถือว่าการควบรวมที่เกิดขึ้นทำให้ทรูและดีแทคถือเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด และแม้บอร์ด กสทช.จะลงมติให้ตงแบรนด์ทรูและดีแทคไว้ 3 ปี ส่วนตัวไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์ใดกับผู้บริโภคเพราะเหมือนเป็นวาระกรรมที่เขียนไว้เท่านั้น เพราะอัตราค่าบริการ โปรโมชั่น แพคเก็จ และการจ่ายเงิน ช่องทางการจ่ายบิลก็เป็น ช้อปเดียวกันทั้งหมด
ภายในสัปดาห์นี้ สภาฯ จะส่งหนังสือทวงถามความคืบหน้า (Notice) ให้กับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช. ทำรายงานการบังคับใช้มาตรการเฉพาะเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภายหลังการรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TUC) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTN) หลังจากที่ส่งให้ส่งภายใน 60 วันตั้งแต่เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่เคยได้รับรายงานใดๆ ตอบกลับจากทาง กสทช.เลย
นายอิฐบูรณ์ เสริมว่า พบประเด็นที่สำคัญ คือ กสทช. ต้องมีการปฎิรูปการพิจารณาการควบรวบธุรกิจใหม่ให้เป็นมาตรฐาน โดยอ้างอิงหลักเกณฑ์การพิจารณาตามกฎหมายในต่างประเทศที่จะต้องนำมาตรการไปจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ ประชาชน ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่ร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น อีกทั้งยังต้องมีการกำกับติดตามให้ทรู และดีแทคปฏิบัติตามข้อกังวลและเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะให้ครบถ้วนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคตามแนวทางของคณะกรรมการ กสทช. ที่กำหนดไว้หลังอนุญาตให้ควบรวมกิจการ
รองเลขาธิการสภาฯ กล่าวอีกว่า สภาฯอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ. การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภคพ.ศ. 2562 มาตรา 14 (3) ให้อำนาจสภาฯทำรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำอันมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค ไปยังหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบและเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ แต่จนถึงขณะนี้ กสทช.ก็ไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งประเด็นตรงนี้ ตนอยากจะพุ่งเป้าไปที่สำนักงาน กสทช. เพราะเป็นเหมือนผู้รับผิดชอบตามมติที่บอร์ดกสทช.แต่จากทุกคนก็ทราบดี ปัญญาภายในขององค์กร ที่มีสำนักงาน กสทช. ทำตัวเป็นเพียงคนส่งสารไม่ใช่คนไปกำกับดูแล และทำตามมติบอร์ดอย่างเข้มงวดและจริงจัง
“ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากการกำกับดูแลของสำนักงาน กสทช. มันส่งผลทั้งต่อผู้บริโภคและประเทศชาติด้วย การไม่ดำเนินการเอาจริงจังปล่อยเวลาล่วงเลย 2 ปี ถือว่ากสทช.ขาดธรรมาภิบาลอย่างประจักษ์”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี