nn มีรายงานชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจของ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ เอดีบี ที่ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 4.9% ในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของเอดีบีในเดือนกันยายนที่ 5.0% เล็กน้อย โดยคาดการณ์การเติบโตในปี 2568 นั้น ได้ถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.8% จาก 4.9% เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศในเอเชียใต้มีแนวโน้มอ่อนแอลง แต่อุปสงค์ภายในประเทศโดยรวมและการส่งออกที่แข็งแกร่งนั้น ยังคง
ขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ตาม นโยบายที่คาดว่าจะดำเนินการโดยรัฐบาลใหม่ของสหรัฐอเมริกานั้น อาจชะลอการเติบโตของจีนได้ในระดับหนึ่ง และผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้น โดยมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกหลังจากปีหน้าด้วยเช่นกัน
ส่วนแนวโน้มการเจริญเติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)คาดว่าจะอยู่ที่ 4.7% ในปีนี้ ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านั้นที่ 4.5% เนื่องจากการผลิตเพื่อส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐที่แข็งแกร่งขึ้น ส่วนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 4.7% เช่นเดิม
สำหรับประเทศไทย ADB ประเมินว่าปี 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยจะอยู่ 2.6% และคาดการณ์ GDP ของไทยในปี 2568 ไว้ที่ระดับเดิม โดยคาดว่า GDP ปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 2.7%...เห็นตัวเลขนี้แล้วสังเกตได้ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยนั้นต่ำกว่าภูมิภาคเอเชีย และต่ำกว่าของอาเซียน หากดูจากตารางของ ADB ไทยอยู่ในตำแหน่งรองบ๊วยของอาเซียน ต่ำกว่า ลาว กัมพูชา พม่า เกือบ 40% สูงกว่าสิงคโปร์ ที่ GDP เขา อยู่ที่ 2.6% (แต่ต้องไม่ลืมว่าสิงคโปร์ เขาเศรษฐกิจใหญ่และพัฒนากว่าไทย ฐานะการเงินของประเทศแข็งแกร่งกว่าไทยคุณภาพชีวิตของประชากรเขาสูงกว่าไทย)...
ว่ากันตามจริงศักยภาพของเศรษฐกิจไทยถือว่าไม่ได้แย่เลย...ทรัพยากรธรรมชาติก็ถือว่าสมบูรณ์ มีจุดแข็งหลายด้าน โครงสร้างพื้นฐานก็ไม่ด้อยกว่าใคร...แต่คำถามสำคัญคือแล้วทำไมเศรษฐกิจไทยถึงได้โตต่ำกว่าชาวบ้านเขามาหลายปีต่อเนื่อง...
เท่าที่เศรษฐศาสตร์วันหยุด นึกออกตอนนี้คือ...ภาคบริการและการท่องเที่ยวจะไม่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจมากเท่าเดิม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในปี 2568-2569 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยเพียง 6.9% ต่อปี ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับการฟื้นตัวช่วงหลังการเปิดประเทศหลังโควิดที่โตได้มากกว่านั้นหลายเท่า...ภาคการผลิตของไทยก็ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว อุตสาหกรรมหลักของไทย คือ ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของตลาดโลก เห็นชัดๆ คืออุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ที่เคยเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทย กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหน่วยความจำแบบ SSD เข้ามาแทนที่ ส่งผลให้การผลิต HDD ลดลงกว่า 50% ตั้งแต่ปี 2564 มาแล้ว... ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของ GDP ทำให้ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่มากขึ้น จนส่งผลให้การบริโภคสินค้าคงทนในไทยหดตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และทำให้การบริโภคภาคเอกชนจะยังคงชะลอตัวลงต่อเนื่องต่อไป...จริงๆ ก็ยังมีเรื่องความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลงทั้งมิติของส่งออกและการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ฯลฯ
นักวิชาการหลายสำนักมักจะบอกว่าสิ่งเหล่านี้คือปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย...ซึ่งถ้ายังไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว และรัฐบาลยังไม่ทำอะไรนอกจากไล่
“แจกเงิน”อีกไม่กี่ปีประเทศไทยอาจจะเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนามากที่สุดในอาเซียน
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี