'เอกนัฏ'ยันเดินหน้าพัฒนาพื้นที่อีอีซีรองรับการลงทุน พร้อมดันให้การนิคมอุตสาหกรรมดูเรื่องผังเมือง
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึง การหาพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อรองรับการลงทุน โดยมองว่า เป็นโอกาสสำคัญของอุตสาหกรรมไทย เป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการฟื้นภาคอุตสาหกรรม ดันจีดีพีให้โตอย่างน้อย 1 % ให้ได้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ตนมอบให้กับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องทำงานควบคู่ไปกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หรืออีอีซี
นายเอกนัฏ กล่าวว่า เรื่องของที่ดินต้องดูที่ที่เหมาะสม ซึ่งหากไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อีอีซี ทำอย่างไรให้ที่ดินที่อีอีซีมีพื้นที่สำหรับสร้างโรงงานใหม่ๆ ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป พบว่า มีข้อจำกัดในเรื่องผังเมือง ซึ่งการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะมีการแก้ปัญหาด้วยการร่างผังการนิคมอุตสาหกรรมขึ้นมาเอง เพื่อไปต่อรองกับกระทรวงมหาดไทย และอีอีซี เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการขยายตัวของกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอย่างเหมาะสม เพราะถือเป็นจุดสำคัญ เป็นโอกาสสำคัญของประเทศ ถ้าไม่ทำเรื่องนี้เพื่อรองรับโอกาสตรงนี้ ก็จะไม่มีใครสนใจเข้ามาลงทุน และหากผลักดันเรื่องนี้ จะมีส่วนทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศโต 1% โดยที่ไม่ใช้เงินงบประมาณ แต่ใช้เงินจากบริษัทต่างชาติ และการติดขัดในเรื่องการออกใบอนุญาตให้มีการประกอบการ ซึ่งตนได้แก้ปัญหาให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้เป็น one stop service เป็นจุดเชื่อมต่อกับส่วนราชการอื่นทั้งหมด
ทั้งนี้ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ที่ตนมาพูดคุยกับนายพีระพันธ์ุ สารีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานจะมีการพูดคุยเรื่องนี้เป็นหลัก และทำอย่างไรให้ 2 กระทรวงช่วยกันขับเคลื่อน และสร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการไทย และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับเศรษฐกิจประเทศ
นายเอกนัฏ ยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังทำงานสอดรับประสานกันดีอยู่ ทุกคนทำงานด้วยกัน ขับเคลื่อนไปด้วยกัน มีเป้าหมายเดียวกัน ประเทศไทยก็บอบช้ำจากพิษเศรษฐกิจที่สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด19 วันนี้ยังไม่ฟื้น ภาครัฐต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อที่จะขับเคลื่อนฟื้นเศรษฐกิจ และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
“ภารกิจหนักขณะนี้ สิ่งสุดท้ายมาทะเลาะกันเอง ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ จะให้ผมคุยกับใคร ทำงานกับใครเพื่อส่วนรวมผมทำทั้งหมด” นายเอกนัฏ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายเอกนัฏ เปิดเผยว่า ได้มีการเดินสายไปพูดคุยกับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นทุกค่าย ได้รับข่าวดีว่า หลายค่ายยืนยันว่า จะรักษาฐานการผลิตในไทย และจะมีการลงทุนเพื่อสร้างฐาน และอัพเกรดฐานการผลิตเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ และเมื่อกลับมาตนก็ไปคุยกับรมว.คลังด้วยตนเอง เพื่อที่จะดูเรื่องโครงสร้างภาษีสรรพสามิต สิทธิประโยชน์ที่จะได้ใหม่ ต่อไปก็ดึงให้กระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาช่วยกำหนดเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ถูกส่งต่อมายังธุรกิจคนไทย มาซื้อชิ้นส่วนของคนไทย รักษาการผลิตไว้ในประเทศ และมีการจ้างงาน และส่งต่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมด้วย และพร้อมทำงานกับทุกกระทรวง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี