'มนพร' สั่ง ทย. เฝ้าระวังสนามบินชุมพร ระนอง สุราษฎร์ฯ นครศรีฯ หลังฝนตก - น้ำท่วมภาคใต้ กำชับรอบรันเวย์ต้องไม่มีน้ำขัง - ไม่กระทบการขึ้น - ลงของเครื่องบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก – เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง รวมถึงแจ้งเตือนให้เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จึงได้สั่งการให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ท่าอากาศยานชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชซึ่งอยู่ในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือปฏิบัติตามแผนบรรเทาสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเฝ้าระวังพื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบินไม่ให้กระทบต่อการขึ้น - ลงของเครื่องบิน จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ตรวจวัดระดับความสูงของน้ำ
ทั้งภายในและภายนอกท่าอากาศยาน บันทึกความสูงของระดับน้ำทุก 2 ชั่วโมง ตรวจสอบรางระบายน้ำเพื่อป้องกันการอุดตันและให้การไหลของน้ำมีความคล่องตัว รวมถึงจัดเตรียมเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าสำรอง กรณีระบบส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดขัดข้อง และให้ ทย. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น หอบังคับการบิน สำนักงานอุตุนิยมวิทยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อย่างทันท่วงที
นางมนพร กล่าวต่อว่า นอกจากการเฝ้าระวังเหตุ และเตรียมความพร้อมรับมือตามแผนบรรเทาสาธารณภัยอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังได้สั่งการ ทย. ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับเครื่องบินทหาร เครื่องบินทางการแพทย์ และเครื่องบินของ ปภ. ในการนำความช่วยเหลือสู่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย รวมถึงให้เตรียมความพร้อมรถฉีดน้ำดับเพลิงแรงดันสูง เพื่อช่วยทำความสะอาดสถานที่และบ้านเรือนของประชาชนภายหลังน้ำลดด้วย
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่าอากาศยานในสังกัด ทย. ทั้ง 4 แห่ง ไม่มีน้ำท่วมขัง โดยระดับน้ำบนพื้นผิวทางวิ่ง พื้นผิวทางขับ และพื้นผิวลานจอดอากาศยานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่เปิดให้บริการประชาชนได้ ไม่มีผลกระทบต่อการขึ้น - ลงของอากาศยาน ในส่วนของการเดินทางมายังท่าอากาศยานชุมพร
และระนอง สามารถเดินทางได้ปกติ เนื่องจากการระบายน้ำผ่านได้รวดเร็ว ส่วนท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เส้นทางจากอำเภอดอนสักสามารถสัญจรได้เฉพาะรถใหญ่ แนะนำให้ใช้เส้นทางจากสะพานศรีสุราษฎร์ เพื่อมาใช้ถนนหมายเลข 417 หรือ 401 หลีกเลี่ยงการใช้ถนนเส้นสุราษฎร์ - พุนพิน (สายเก่า) และถนนทางเข้า – ออกท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชมีน้ำท่วมขัง รถเล็กควรใช้ความระมัดระวังในการสัญจร
ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางไปยังท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่ง อย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมง ซึ่ง ทย. ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรายงานให้ผู้โดยสารทราบกรณีเกิดสถานการณ์เร่งด่วน สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook Fanpage : Department of Airports
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี