ภาครัฐ-เอกชน สานต่อโปรเจกท์ ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ ที่จะระเบิดศึกบนผืนแผ่นดินไทย นำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดประชุมเตรียมความพร้อม “โมโตจีพีไทยแลนด์ 2025” พร้อมด้วย 3 อีเว้นท์สำคัญ ของดอร์น่าสปอร์ต ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน และแฟนความเร็วทั่วโลก

โดยมี นางสาวสิวาณี เซ็ม หัวหน้างานส่งเสริมและมาตรฐานกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท., นายฉลอง ติรไตรภูษิตผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พีทีจีเอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG พร้อมด้วยนายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล และนายโชติชนก ชิดชอบผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตัวแทนจากน้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด,บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท โมโตเรอิตาเลียโน จำกัด (ดูคาติ ไทยแลนด์) และผู้สนับสนุนอื่นๆ มากมาย ร่วมประชุมความพร้อมการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก MotoGP 2025 ภายใต้ชื่อรายการ PT Grand Prix of Thailand 2025

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กล่าวว่า “โมโตจีพี” ฤดูกาล 2025 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ สนามที่ 1 ภายใต้ชื่อรายการ PT Grand Prix of Thailand 2025 การกีฬาแห่งประเทศไทย นำทัพจัดประชุมแผนงานช่วงโค้งสุดท้าย โดยหัวข้อการประชุมเป็นภาพรวมของการจัดการและการผนึกกำลังร่วมกันสร้างความเข้าใจในส่วนต่างๆ เพื่อรองรับแฟนความเร็วหลายแสนคน ตลอดการจัดงาน 3 วัน ไม่ว่าจะเป็น จุดจอดรถ, จุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม,บริการชัตเติ้ลแต๋น, รถบริการรับ-ส่งจากนอกสนามสู่สนามแข่งขัน ฯลฯ

“ปี 2568 ประเทศไทย จะจัด 3 อีเว้นท์สำคัญของดอร์น่าสปอร์ต ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน และแฟนความเร็วทั่วโลก ได้แก่ 1.การจัดแถลงข่าวเปิดฤดูกาลครั้งแรกในประเทศไทยวันที่ 9 ก.พ. 2568 โดยดอร์น่าสปอร์ต ซึ่งจะเป็นข่าวใหญ่กระหึ่มโลก จะมีการเปิดตัวนักแข่ง, รถแข่ง,ทีมแข่ง ฯลฯ สื่อมอเตอร์สปอร์ตเจ้ายักษ์จากทุกมุมโลกจะบินลัดฟ้ามาร่วมทำข่าวหลายร้อยคน รวมทั้ง การเปิดตัวในฐานะนักแข่งโมโตจีพีของ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา 2.การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล วันที่ 12-13 ก.พ.2568 ที่สนามช้างฯ เซอร์กิต ที่นักแข่งภายใต้รถแข่งใหม่ จะได้นำรถ ทีมแข่ง มาลงสนามจริงครั้งแรก และ 3.วันแข่งขัน 28 ก.พ.-2 มี.ค.2568 จะเป็นครั้งแรกที่ไทย ได้เป็นสนามที่ 1 จากทั้งหมด 22 สนามใน 18 ประเทศทั่วโลก”

โดยคาดว่าโมโตจีพี สนามประเทศไทย ปี 2025 จะมีแฟนความเร็วทั่วโลก ร่วมงานมากกว่า2 แสนคน เงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ มากกว่า5 พันล้านบาท ตอกย้ำความเป็นมหานครแห่งอีเว้นท์กีฬาระดับโลกอย่างแท้จริง