ผู้สูงวัย 60 ปีเฮ!
รอรับเงิน 1 หมื่นม.ค.68
เฟส 3 ลุ้นไตรมาส 2 ปีหน้า
ครม.อนุมัติแจกเงินคนละ 10,000 บาท เฟส 2 กลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะเร่งจ่ายในเดือนมกราคม 2568 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ส่วนการแจกในเฟสที่ 3 จะมีความชัดเจนในไตรมาส 2 ของปี 2568
เมื่อวันที่ 24ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงคลังเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุ เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับผู้สูงอายุ เพื่อให้มีโอกาสการใช้จ่ายที่จำเป็นโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ผู้ที่มีสัญชาติไทย ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะจ่ายเงินกลุ่มเป้าหมาย 10,000 บาทต่อคน ซึ่งจะเร่งจ่ายในเดือนม.ค.2568 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความชัดเจนในโครงการแจกเงิน 1หมื่นบาท เฟสที่ 3 ว่า ในไตรมาส 2 ของปี 2568 ก็คิดว่าน่าจะได้ความชัดเจนตรงนี้ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดให้ถามที่กระทรวงการคลังอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า การจ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะไม่เกินวันที่ 29 ม.ค.2568
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเงินดิจิทัลเฟส 2 ได้คัดกรองผู้ได้สิทธิเสร็จแล้วมีประมาณ 3.2ล้านคน ซึ่งน้อยกว่ากรอบวงเงินที่ตั้งไว้ 4 ล้านคน ซึ่งกลุ่มใช้เงินงบประมาณ 3.2หมื่นล้านบาทใครได้เงิน 10,000 บาท เฟส 2บ้างต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ในเดือนที่มีการลงทะเบียนเป็นประชาชนที่มีอยู่ในทะเบียนบ้านมีสัญชาติไทยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่จะได้รับเงินก้อน 10,000 บาท เฟส 2 ต้องเป็นผู้ที่ “ลงทะเบียนแอปทางรัฐ” เท่านั้นคนไม่ลงทะเบียน Super App ทางรัฐหมดสิทธิทันทีตัดสิทธิคนที่ได้รับเงินเฟสแรกไปแล้ว กลุ่มเปราะบางก็หมดสิทธิไม่มีรายได้เกิน 840,000บาท/ปีไม่มีเงินฝากทุกบัญชีเกิน5แสนบาทไม่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำไม่เป็นผู้ถูกระงับสิทธิ หรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการโครงการอื่นๆ ของรัฐ
ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขมาตรการ/โครงการอื่นๆของรัฐจ่ายเงิน10,000บาท เฟส 2ก่อนตรุษจีน2568 (29 มกราคม2568)
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ กรอบวงเงินงบประมาณกำหนดไว้ 4 หมื่นล้านบาท และมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ดูรายละเอียดเพื่อดำเนินการ โดยยึดกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ” อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ มีเงินฝากตามกติกาที่เคยกำหนดไว้
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนการรับสิทธิจะรับผ่านทางระบบ “พร้อมเพย์” จึงขอเชิญผู้สูงอายุที่อยู่ในเกณฑ์กลุ่มนี้ เมื่อถึงเวลาที่มีการประกาศให้ไปผูกพร้อมเพย์ให้เรียบร้อย คาดว่าจะดำเนินการทันก่อนตรุษจีน คือวันที่ 29 ม.ค.68 แน่นอน และจะพยายามให้เร็วกว่านั้น ส่วนการลงทะเบียนในกลุ่มอื่นๆ เช่นกลุ่ม Non-Smartphone คาดว่าจะดำเนินการได้ช่วงหลังปีใหม่ โดยจะกำหนดวันอีกครั้งหนึ่ง
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ถือเป็นหนึ่งในของขวัญปีใหม่ของกระทรวงการคลังที่ให้พี่น้องประชาชน ซึ่งกระทรวงการคลังมีของขวัญปีใหม่ 3 อย่าง ส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว คือการช่วยเหลือเรื่องปัจจัยการผลิตให้พี่น้องชาวนาผ่านโครงการ 1,000 บาทต่อไร่ วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ส่วนที่สองคือการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุผ่านกรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท และโครงการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2568 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบแล้วเช่นกัน โดยมีการปรับเปลี่ยนกรอบอย่างแรก คือสามารถลดหย่อนภาษีได้ 50,000 บาท โดยแบ่งเป็นสองตะกร้า ตะกร้าแรก 30,000 บาท ในส่วนของการจับจ่ายใช้สอยทั่วไป ส่วนที่สอง 20,000 บาท กำหนดไว้ว่าต้องใช้กับวิสาหกิจชุมชนโอท็อปที่มีการลงทะเบียน ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงต้นปีกำหนดกรอบเวลาไว้ 16 ม.ค.-28 ก.พ.68
“จะเห็นได้ว่าปลายไตรมาส 3 ช่วงเดือน ก.ย. เรามีการเติมเงินให้กลุ่มเปราะบาง ช่วงเดือน ธ.ค.-ก.พ.จะมีเม็ดเงินจาก 3 โครงการดังกล่าว เราพยายามรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจส่งผ่านจากปีที่แล้วจนถึงต้นปี 2568 เพื่อเป็นความหวังให้พี่น้องประชาชน” รมช.คลัง กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี