น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้รับรายงานจาก นายนิรวัชช์ รังสีกาญจน ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา ถึงแนวโน้มการเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และโอกาสในการขยายตลาดรถ EV ของไทยและการลงทุนทำสถานีชาร์จไฟฟ้าในกัมพูชา เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

ทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่าปัจจุบันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตสูงในกัมพูชา เพราะไม่เพียงช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน รวมทั้งกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่รัฐบาลกัมพูชา โดยกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ได้ริเริ่มแผนงานเพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ EV ในกัมพูชา ตั้งเป้าหมายมีรถยนต์ EV จำนวน 800,000 คัน พร้อมสถานีชาร์จที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในปี 2030 ปัจจุบันข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ณ เดือนตุลาคม2567 กัมพูชามีรถยนต์ใช้น้ำมันกว่า 7.6 ล้านคัน แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์และรถสามล้อ 85% รถยนต์ 10% และรถบัส รถบรรทุก และรถเครื่องจักรกลหนัก 5%

จากปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติธรรมชาติเริ่มเกิดขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ ทำให้กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้นไม่เว้นแม้กระทั่งในกัมพูชาโดยรัฐบาลกัมพูชามีนโยบายสนับสนุนให้ชาวกัมพูชาใช้ยานพาหนะไฟฟ้ามากขึ้นและมีนโยบายปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพื่อลดต้นทุนการผลิตและรัฐบาลกัมพูชายังได้กำหนดเป้าหมายดังกล่าวไว้ในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ปี 2050 เพื่อลดปริมาณคาร์บอน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยการสนับสนุนให้ใช้พลังงานสะอาดในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยลดภาษีนำเข้าสำหรับ EV ลงเหลือ 63% เมื่อเทียบกับรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่120% เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภครถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

จากความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)ทำให้มีการจดทะเบียนรถยนต์ EV เพิ่มขึ้น ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2567 มีจดทะเบียนแล้ว 2,513 คันรถยนต์ EV ที่ได้รับความนิยมได้แก่ BYD ของจีน Toyota ของญี่ปุ่น และ Tesla ของสหรัฐและมีสถานีชาร์จแบตเตอรีรถ EV จำนวน 21 แห่งทั่วประเทศจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอาจพิจารณาส่งออกสินค้าดังกล่าวมายังกัมพูชาหรืออาจลงทุนด้านสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถ EV ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต