พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยทิศทางการขับเคลื่อน NT ปี 2568 ว่า ยังคงมุ่งสร้างรายได้หลักจากกลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สาย และกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่และบรอดแบนด์ โดยเน้นควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งแบรนด์ มายด์ (my) และNT Mobile อยู่ระหว่างเร่งโอนย้ายลูกค้าไปยังคลื่น700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ขณะที่บริการวิทยุคมนาคม Trunked Radio ยังคงมีรายได้สม่ำเสมอและกำไรตามเป้า

ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้ปีหน้าเพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการ Gateway สำหรับระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ร่วมกับพันธมิตร OneWeb รวมการใช้ประโยชน์อสังหาริมทรัพย์ การขยายตัวของธุรกิจดิจิทัล, กลุ่ม ICT Solution และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่ยังสามารถเติบโตได้ โดยคาดว่าการให้บริการดาวเทียมวงโคจรต่ำในปี 2568 จะมีการเจรจาพันธมิตรผู้ให้บริการดาวเทียม LEO เพิ่มอีก 2 ราย ซึ่ง NT เป็นหน่วยงานรัฐที่ต้องการเป็นตัวกลางในการให้บริการดาวเทียม เป้าหมายปลายทางให้มีการลดราคาบริการดาวเทียม เพื่อประชาชนได้ประโยชน์

ขณะเดียวกัน กรณีดาวเทียมของ OneWeb ซึ่งเป็นดาวเทียมบรอดแบนด์ ความต้องการในประเทศไทยไม่มาก เนื่องจากโครงการบริการศูนย์อินเตอร์เนตสาธารณะ (USO Net) ของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าถึงทุกหมู่บ้านแล้ว ซึ่งความต้องการ (ดีมานด์) ที่ต้องใช้น่าจะมีลูกค้าองค์กรราว 2,000 ราย ดังนั้นเป้าหมายของ OneWeb จึงมองเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา มีเสาโทรคมนาคม แค่ 5,000 ต้น และพื้นที่เขาสูง ประเทศเพื่อนบ้านต่างหากที่เป็นตลาดของ LEO ส่วนตลาดในประเทศโฟกัสดาวเทียมไอโอทีของรัฐ เช่น การส่งสัญญาณสมาร์ทมิเตอร์ผ่านดาวเทียม โดยในปีหน้า ธุรกิจเกตเวย์ และพันธมิตรทางการค้าของบริษัทดาวเทียมต่างชาติจะกลายเป็นรายได้ใหม่ของ NT ราว 100-200 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธุรกิจขาขึ้นในปีหน้าคือกลุ่มธุรกิจดิจิทัลและกลุ่มธุรกิจ ICT Solution มีแนวโน้มเติบโตที่ต่อเนื่อง ซึ่ง NT ตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มและเร่งการเติบโตกลุ่มดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น เน้นเปิดกว้างแนวทางพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนที่จะช่วยให้ NT เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและรุกตลาดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว สามารถตอบสนองทันต่อความต้องการด้านดิจิทัลที่สูงขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง

“นโยบายรัฐบาลในปีหน้ามุ่งนำระบบงานขึ้นสู่คลาวด์ทั้งหมดเพื่อพัฒนาข้อมูลโอเพนดาต้าภาครัฐจึงต้องการบริการ Migration ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโตของบริการคลาวด์ รวมถึงเรามีโอกาสพัฒนาความร่วมมือพันธมิตร OTT โดยใช้ศักยภาพด้านพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่เชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อตั้งแต่โครงข่ายเคเบิลใต้น้ำจนถึงการเชื่อมต่อวงจรสื่อสาร DWDM เพื่อรองรับการให้บริการ Facilityสำหรับกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ข้ามชาติ Hyperscale DC หรือ Edge DC ที่สนใจลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องยุทธศาสตร์ประเทศในการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม”