นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากรมฯได้ดำเนินการปรับลดขั้นตอนการขึ้นทะเบียนส่งออกข้าว จากเดิมซึ่งใช้เวลาถึง 3 วัน เหลือเพียง30 นาที สามารถดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถส่งออกข้าวได้ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการปลดล็อก ปรับลดเงื่อนไขการส่งออกข้าว โดยแก้ไขกฎหมาย กฎกระทรวงที่สามารถแก้ไขได้ให้เหมาะสม และการปรับลดขั้นตอนการขึ้นทะเบียนส่งออกข้าวดังกล่าว จะช่วยอำนวยความสะดวก และลดต้นทุนการส่งออกข้าวให้ SME สามารถส่งออกข้าวได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นทั้งนี้ ในส่วนของการปรับลดปริมาณสต๊อกข้าว และค่าธรรมเนียมการขอหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าว กรมการค้าภายใน (คน.) อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
นางอารดากล่าวว่า สำหรับการส่งออกข้าวในปี 2568 กรมฯได้คาดการณ์ร่วมกับภาคเอกชนจะส่งออกได้ปริมาณ 7.5 ล้านตัน ลดลงจากปี 2567 ที่คาดว่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 9.9 ล้านตัน ซึ่งกรมฯจะติดตามตัวเลขส่งออกอย่างเป็นทางการจากกรมศุลกากรอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 นี้ หลังจากที่ช่วง 11 เดือนของปี 2567 (มกราคม-พฤศจิกายน) ส่งออกได้แล้ว 9.19 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 208,874 ล้านบาท หรือประมาณ 5,947 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนการรับมือความท้าทายการส่งออกข้าวในปี 2568 กรมฯได้เตรียมแผนผลักดันการส่งออกข้าว เพื่อช่วยให้มีคำสั่งซื้อรองรับผลผลิตข้าวไทย โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อส่งเสริมตลาดและผลักดันการส่งออกข้าวไทย ตามข้อสั่งการของนายพิชัยนริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ โดยมุ่งเน้นการรักษาตลาดเดิมและรุกตลาดที่มีศักยภาพ ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ตามนโยบายของรัฐบาล
โดยกิจกรรมหลักในปี 2568 จะครอบคลุมทั้งการจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention (TRC) ที่จะมีการเชิญผู้นำเข้าและผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลกและเจรจาธุรกิจระหว่างกัน และกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับคู่ค้าสำคัญเพื่อขยายตลาดข้าวไทย เช่น แอฟริกาใต้ ยุโรป สหรัฐฯ แคนาดา และฟิลิปปินส์ ตลอดจนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่สำคัญ เพื่อประชาสัมพันธ์และขยายช่องทางตลาดของข้าวไทยในต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชน ทูตพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมกำหนดเป้าหมายส่งออกปี 2568 ไว้ที่ 2-3% ซึ่งเป็นเป้าที่ท้าทาย ท่ามกลางมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบใดแนวโน้มการค้าโลกที่อาจชะลอตัว ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่คลี่คลาย ดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูง ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แต่กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว ทั้งการเดินทางไปหารือกับสหรัฐฯในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 การเตรียมยุทธศาสตร์ส่งออก 10 มาตรการ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การผลักดันการส่งออกในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่จะช่วยเพิ่มยอดส่งออก การขยายฐานตลาดการค้าใหม่ การผลักดันการเจรจา FTA ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค และการทำงานร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวถึงการตั้งเป้าส่งออกที่ระดับดังกล่าวว่าเป็นการตั้งตัวเลขที่ท้าทาย เนื่องจากมีปัญหามากมาย ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์กฎระเบียบสิ่งแวดล้อม นโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งผู้ประกอบการไทยต้องระวัง และต้องหาทางลดต้นทุน เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการในทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี