ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (REPORT ON BUSINESS SENTIMENTINDEX) ในเดือนธันวาคม 2567 ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ48.4 ลดลงจาก 49.3 ในเดือนก่อน ดัชนีฯกลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นในไตรมาสสุดท้าย หลังจากที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2566 จากการฟื้นตัวของภาคที่มิใช่การผลิตเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร และกลุ่มขนส่งผู้โดยสาร ที่ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นมาก ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาทิ สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคการผลิตอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีสะท้อนความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อเนื่อง นำโดยกลุ่มผลิตยานยนต์ที่ความเชื่อมั่นด้านการผลิตทรงตัวในระดับต่ำตามยอดขายในประเทศและการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า รวมทั้งกลุ่มผลิตเหล็ก ที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการและการผลิตปรับลดลงมาก ตามอุปสงค์ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่หดตัว เช่น กลุ่มผลิตยานยนต์ และการก่อสร้างภาคเอกชนอย่างไรก็ดี กลุ่มผลิตอาหารและเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นอุตสาหกรรมที่ความเชื่อมั่นอยู่ในทิศทางฟื้นตัวได้ดีและชัดเจนกว่ากลุ่มอื่นในภาคการผลิตตามคำสั่งซื้อของคู่ค้าที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ทูน่ากระป๋องอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์ไก่ รวมถึงเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมทรงตัวอยู่ที่ 51.2 แต่อยู่ในทิศทางที่ลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 จากดัชนีฯ ในภาคการผลิตลดลงอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี โดยลดลงอยู่ในระดับต่ำติดต่อกันนานสุดหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19ส่วนหนึ่งจากความไม่แน่นอนที่ค่อนข้างสูงในระยะข้างหน้า ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของภาคที่มิใช่การผลิตกลับมาฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาส 3 จากแรงส่งหลักในภาคท่องเที่ยวและการเบิกจ่ายงบประมาณด้านการลงทุนของภาครัฐที่ทำได้ต่อเนื่อง
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆ เช่น ความเชื่อมั่นด้านการส่งออกยังมีแนวโน้มลดลงในหลายหมวดสินค้าอาทิ ยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวที่แตกต่างกันมากขึ้นในครึ่งหลังของปีโดยการส่งออกIntegratedCircuit (IC) ยังหดตัวต่อเนื่อง แต่การส่งออก Hard Disk Drive (HDD) เริ่มขยายตัวได้ตามการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อในกลุ่ม enterprise
ขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงยังเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจแต่อยู่ในทิศทางผ่อนคลายลงอย่างต่อเนื่องตรงกันข้ามกับความกังวลด้านการแข่งขันที่รุนแรงจากตลาดในประเทศที่เพิ่มขึ้นชัดเจนโดยเฉพาะในภาคการค้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์อีก 12 เดือนข้างหน้าทรงตัวอยู่ที่ 2.5%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี