กสทช.-สคส.เรียก 2 บริษัทมือถือยี่ห้อดัง" OPPO-Realme"แจงด่วน พร้อมมีคำสั่งล่าสุดห้ามจำหน่ายล็อตที่มีแอบติดตั้งแอปฯล่อยเงินกู้แล้ว ส่วนเครื่องที่จำหน่ายไปแล้วให้ลบแอปฯที่มีปัญหาออก ด้าน'สคส.'ยื่นคำขาดสั่งชี้แจงรายละเอียด 5 ข้อ ภายใน 16 ม.ค. 68 เผย 2 บริษัทยอมรับแอปฯติดตั้งจากโรงงาน ไม่ได้ขออนุญาตแบงก์ชาติ
13 ม.ค.68 สืบเนื่องจากกรณีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน พบการติดตั้ง Fineasy แอพพลิเคชั่นกู้เงิน บนโทรศัพท์มือถือแบรนด์ OPPO และ Realme แบบอัตโนมัติ โดยผู้ใช้งานไม่ได้เป็นผู้ดาวน์โหลดเอง และไม่สามารถลบแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออกได้ จนสร้างความตระหนกให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 แบรนด์ เนื่องจากเกรงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวในเครื่อง
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เรียก 2 บริษัทคือ บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ OPPO และบริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Realme เข้าพบ โดยตัวแทนจากบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป กล่าวยอมรับว่า Fineasy ไม่ได้ขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) และเป็นการติดตั้งมาจากโรงงาน ขณะที่ตัวแทนจากบริษัท โปรทา กล่าวยอมรับไปในทิศทางเดียวกับ โพสเซฟี่ กรุ๊ป ทั้งนี้ OPPO และ Realme เป็นเจ้าของเดียวกันและมาจากโรงงานเดียวกัน
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารโทรศัพท์เคลื่อนทึ่ กรณีการติดตั้งแอพพลิเคชันให้บริการสินเชื่อมากับโทรศัพท์เคลื่อนที่ว่า ที่ประชุมให้ผู้ประกอบการ ดำเนินการตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 37 (2) กรณีที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้ผู้นั้นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม กสทช.ได้สั่งให้ผู้ผลิตโทรศัพท์ทั้ง 2 บริษัท มีมาตรการเร่งด่วน คือ กรณีเครื่องที่จำหน่ายไปแล้วให้มีช่องทางในการดำเนินการลบแอปที่มีปัญหาออก สำหรับเครื่องใหม่ที่ยังไม่จำหน่ายต้องดำเนินการไม่ให้มีแอพฯ ที่มีปัญหาอยู่ในเครื่อง และห้ามจำหน่ายเครื่องที่ยังมีแอปสินเชื่ออยู่
“ให้ออปโป้และเรียลมี จะดำเนินการส่งการอัพเดตแบบ Over-the-Air (OTA) ไปยังเครื่องของผู้ใช้บริการเพื่อให้เจ้าของเครื่องดาวน์ โหลดเพื่อถอนโปรแกรมที่มีปัญหาออกเอง”นายไตรรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา37 (2) แจ้งข้อมูลการเก็บรวบรวมข้อมูล การใช้ข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ทราบภายในวันที่ 16 มกราคม 2568 เบื้องต้น ตัวแทนของค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์แจ้งว่าการเก็บข้อมูลดำเนินการโดยเจ้าของแอปเป็นคนดูแล การตรวจสอบข้อมูล และผู้ให้บริการสินเชื่อคือเจ้าของซอฟต์แวร์
ขณะเดียวกันในส่วนผู้ที่ใช้แอพขอสินเชื่อไปแล้วและเกิดความเสียหายให้แจ้งมายัง สคส. หากตรวจสอบแล้วมีการดำเนินการที่ขัดต่อกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับทางปกครองไม่เกินสามล้านบาท ขณะนี้สิ่งที่ทำได้หรือดำเนินการเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเสียหาย ส่วนการดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ จะมีการตรวจสอบต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กล่าวว่า ทั้ง 2 บริษัท จะต้องแต่งตั้งตัวแทนในประเทศไทย เพื่อรับผิดชอบต่อการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยตัวแทนต้องมีอำนาจเต็มและรับผิดชอบไม่จำกัดกรณี หากไม่ดำเนินการแต่งตั้งตัวแทน จะถูกปรับตามกฎหมาย และหากเกิดการฝ่าฝืนหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอีกในอนาคต อาจมีโทษทั้งทางแพ่ง อาญา และปกครอง
"การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะนี้ เป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและจะเร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป" พ.ต.อ.สุรพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า การละเมิดดังกล่าวครอบคลุมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2566 โดยแอปพลิเคชันที่เป็นปัญหาได้ถูกติดตั้งมากับเครื่องตั้งแต่โรงงาน ขณะที่โทรศัพท์รุ่นเก่า อาจได้รับการติดตั้งผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ (OTA: Over-The-Air) โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ ดังนั้น สคส. จึงกำหนดให้ 2 บริษัท ทำรายงานรายละเอียด ได้แก่ 1.ขอสัญญาการแต่งตั้งตัวแทนของไทย ตามมาตรา 37(5) 2.พิจารณามาตรการทางกฎหมายติดตั้งแอปพลิเคชันตามมาตรา 23 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 3.ข้อมูลไม่ได้รับความยินยอมเปิดช่องทางให้ลบได้อย่างไร 4.เครื่องใหม่ต้องไม่มีแอปพลิเคชันอยู่ในเครื่อง และ 5.ใครเป็นผู้รับเงินกู้ แหล่งทุน โดยชี้แจ้งกลับมายัง สคส. ภายใน 3 วันหรือ 16 ม.ค.68 หากไม่ดำเนินการจะเป็นกรณีที่ฝ่าฝืนมาตรา 83 ของของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระวางโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
ส่วนการลบแอปพลิเคชันที่เป็นปัญหานี้ จะดำเนินการใน 2 แนวทาง คือ 1.ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ด้วยตนเองผ่าน OTA ซึ่งจะมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้สามารถถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ละเมิดได้อย่างสมบูรณ์ และ 2.สำหรับผู้ที่ไม่สามารถอัปเดตผ่าน OTA ได้ จะมีช่องทางพิเศษในการให้บริการลบแอปพลิเคชันที่ศูนย์บริการ โดย สคส. ได้สั่งให้บริษัทจัดเตรียมขั้นตอนที่ชัดเจนและต้องดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี