มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 57.9 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยได้รับผลเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยยังคงอยู่ที่ระดับ 48.7 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ 50 สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคการลงทุนเอกชนและการเกษตรที่ยังไม่โดดเด่น เนื่องจากธุรกิจยังไม่กล้าขยายการลงทุนเพิ่มเติม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมา แต่ปัจจัยเสี่ยง เช่น สงครามการค้า ราคาน้ำมัน และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ยังคงเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ข่าวการลักพาตัวชาวจีนอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลกำลังดำเนินการแจกเงิน 10,000 บาทให้ผู้สูงอายุและมีมาตรการ Easy-e Receipt เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายของประชาชน ตนเสนอให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะ "คูณสอง" เพื่อเพิ่มแรงส่ง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเติบโตประมาณ 3% บวกหรือลบ
นางอุมากมล สุนทรสุรัติ จากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธันวาคมที่ปรับตัวดีขึ้น มาจากการที่ประชาชนเริ่มเห็นผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงต่ำกว่าระดับ 100 ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของผู้บริโภคต่อโอกาสการหางาน รายได้ในอนาคต และค่าครองชีพที่ยังคงสูง รวมถึงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ
นายวชิร คูณทวีเทพ กล่าวเสริมว่าดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน แม้จะมีปัจจัยบวก เช่น การคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25% ต่อปี การส่งออกที่เติบโตในเดือนพฤศจิกายน การขยายเวลาคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ปัจจัยลบ เช่น ค่าครองชีพสูง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และภัยธรรมชาติ ยังคงกดดันเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี หอการค้า ให้ความเห็นว่าเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รัฐบาลควรเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่อง กระตุ้นการบริโภคของประชาชน ปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมถึงดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพทางการเงินให้สมดุลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกในอนาคต.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี