บิ๊กบอส LEO ลั่นกอดหุ้นแน่น

บิ๊กบอส LEO ลั่นกอดหุ้นแน่น

วันจันทร์ ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568, 14.55 น.

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า กรณีการขายหุ้น ในวันที่ 17 มกราคม 2568 มีปริมาณการซื้อขายหุ้น LEO ในลักษณะที่ไม่ปกติ และราคาลดลงมามาก เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นผู้ถือหุ้นรุ่นก่อตั้งของบริษัทฯ (ที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการ) นำหุ้นไปวางค้ำประกันเงินกู้ และถูกบังคับขายหุ้น (Forced Sell)

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคลและไม่ได้เกี่ยวของกับบริษัทฯหรือคณะกรรมการของบริษัทฯเนื่องจากเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล โดยผู้ที่นำหุ้นไปค้ำประกันดังกล่าวไม่ได้เป็นคณะกรรมการของบริษัทฯ  อีกทั้งคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ ยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการบริหารจัดการบริษัทให้เป็นไปตามแผน ชูกลยุทธ์ “LEO Go Green” ยกระดับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรอย่างความยั่งยืน พร้อมต่อยอดธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics สร้างรายได้เพิ่มจากการบริการจัดการด้าน Warehouse / Distribution Center ดันผลงานปี 2568 ให้มีการเติบโต 20-25% และมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics เพิ่มขึ้นมาเป็นอย่างน้อย 30-35% ของภาพรายได้รวม และทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นของบริษัทสูงขึ้น


“ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นใหญ่ของ LEO ผมยืนยันว่ายังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความมั่นคงของบริษัท และที่ผ่านมาก็มีแต่ทยอยเก็บซื้อหุ้นเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคมปี 2567 ที่ผ่านมา ผมและภรรยาก็ยังมีการซื้อหุ้นของ LEO รวมกันเป็นจำนวน 600,000 หุ้น”นายเกตติวิทย์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 ทาง LEO เดินตามแผนยุทธศาสตร์ “LEO Go Green”  ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตกำไรขั้นต้นและผลประกอบการให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20-25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ๆ (New Business Units) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ Self-Storage และ Wine Storage สาขา ถนนพระราม 4 รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่ได้มีการจัดตั้งในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การขนส่งทางรางไปยังประเทศจีน-ลาว ของบริษัท LaneXang Express การขนส่งสินค้าทางรางภายในประเทศของบริษัท  Sritrang LEO Multimodal Logistics การให้บริการศูนย์โลจิสติกส์และกระจายสินค้าของบริษัท Advantis LEO และการส่งออกสินค้าทุเรียนไปยังประเทศจีนจากบริษัท LEO Sourcing & Supply Chain ซึ่งบริษัทดังกล่าวเหล่านี้จะทำให้เกิดรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนของรายได้มาเป็น 30-35% จากยอดรวมของบริษัทฯ ใน 1-2 ปีข้างหน้า รวมถึงโครงการ JV และ M&A อีกหลายโครงการที่อยู่ในแผนธุรกิจในปี2568

“LEO เชื่อมั่นว่า ปี 2568 รายได้และกำไรขั้นต้นของบริษัทจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาจากการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างประเทศไทยกับจีน รวมทั้งธุรกิจของ Non - Logistics Business จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดแน่นอน” นายเกตติวิทย์ กล่าวนายเกตติวิทย์ กล่าวว่า หนึ่งในแผนการสำคัญของ LEO ในปี 2568 คือการพัฒนาระบบขนส่งรถไฟจีน-ไทย ด้วยตู้ Reefer Containers ให้เป็นระบบแบบขนส่ง Round trip มีสินค้าขาไปและขากลับ ระหว่างประเทศจีน-ไทย โดย LEO จะเป็นผู้จัดหาสินค้าส่งออกจากประเทศไทยมายังจีน และทางฝ่ายจีนก็จะช่วยหาสินค้าส่งออกจากประเทศจีนกลับมายังประเทศไทย โดย LEO มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการ End-to-End Global Logistics Service Provider และเครือข่ายของ LaneXang Express ในประเทศจีนและไทยจะสามารถช่วยยกระดับการให้บริการเข้าสู่มาตรฐานสากล ผลักดันให้การขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างจีน-ไทย ให้ประสบความสำเร็จ และสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับผู้ส่งออกและนำเข้าทั้งในประเทศไทยและจีน

นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับกิจกรรมและบริการโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ LEO จึงได้ประกาศแผนกลยุทธ์ที่พร้อมส่งมอบบริการโลจิสติกส์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “LEO Go Green” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในฐานะผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อย่างแท้จริง” นายเกตติวิทย์ กล่าวในที่สุด

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top