ll บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (20-24 ม.ค. 2568)...โดยระบุว่า...ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนในระดับสูงเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางคลี่คลายลงจากการบรรลุข้อตกลงการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา ขณะที่ EIA คาดอุปสงค์น้ำมันดิบโลกปี 2568 ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่สงบในรัสเซีย-ยูเครน ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้เร็วขึ้น จากเดือน ก.ย. 2568 เป็นมิ.ย. 2568...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 72-82 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 75-85 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล...
ll บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อจำกัด (BPT) จับมือ บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (Thappline) เดินหน้าโครงการเชื่อมต่อระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 (สระบุรี-อ่างทอง) เชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านระบบท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดินภาคตะวันออกสู่ภาคเหนือ...พร้อมเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาสที่ 1/2568...คาดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2569 โดยเริ่มรับน้ำมันจากคลังน้ำมันสระบุรีของ Thappline เชื่อมต่อกับระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 1 บริเวณจังหวัดอ่างทอง ระยะทางประมาณ 52 กิโลเมตร หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้ระบบท่อขนส่งน้ำมันของ BPT มีระยะทางรวม 726 กิโลเมตร...นับเป็นท่อขนส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดและทันสมัยที่สุดของประเทศ และเป็นระบบท่อส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดในอาเซียน...
ll เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568...คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)...ได้ประกาศ “เชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าระยะสั้นเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน จากผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้า (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568”...ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2567 ที่มีมติให้ขยายมาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนส่วนเพิ่มจากปี 2567 ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยรับซื้อตั้งแต่ปี 2568-2569 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2569...สาระสำคัญของประกาศดังกล่าวระบุว่าการทำสัญญาจะเป็นรูปแบบไม่บังคับปริมาณซื้อขายไฟฟ้า (Non-Firm) และต้องมีความพร้อมจ่ายไฟฟ้าภายในปี 2569 ซึ่งหากพบข้อจำกัดด้านศักยภาพระบบ
โครงข่ายไฟฟ้า (Grid Capacity) การไฟฟ้าสามารถบอกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ และให้การไฟฟ้าสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ได้จัดหาไฟฟ้าตามประกาศนี้ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐหรือหมดความจำเป็น หรือเป็นภาระเกินควรแก่ผู้ใช้ไฟฟ้า หรือเหตุอื่นที่เกิดขึ้นจนทำให้ไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้...ประกาศดังกล่าวกำหนดรายละเอียดไว้ดังนี้...กพช. มีมติให้ขยายมาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนส่วนเพิ่ม โดยรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) จากสัญญาเดิมหรือนอกเหนือจากกลุ่มสัญญาเดิม โดยรับซื้อพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว ไม่มีการลงทุนใหม่ และมีความพร้อมในการจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) หรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สามารถรองรับได้โดยรับซื้อตั้งแต่ปี 2568-2569 ไม่เกิน 2 ปี(สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2569) ในรูปแบบไม่บังคับปริมาณซื้อขายไฟฟ้า (Non-Firm)...ส่วนอัตรารับซื้อไฟฟ้า เป็นดังนี้...เชื้อเพลิงชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และขยะ รับซื้อ 2.20 บาทต่อหน่วย...พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา, แบบติดตั้งบนพื้นดิน และแบบทุ่นลอยน้ำ รับซื้อ 1 บาทต่อหน่วย และพลังงานลม รับซื้อ 0.50 บาทต่อหน่วย...
ll บริษัท กัลฟ์ แอลเอ็นจี จำกัด (Gulf LNG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100% ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper License) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)...ได้เริ่มนำเข้าก๊าซ LNG ลอตแรก เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 แล้ว...โดยมีปริมาณ 6.4 ล้านตันต่อปี ตามใบอนุญาต...เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าในเครือ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า IPP ทั้งโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) และโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ศรีราชา (GSRC) โครงการโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 19 โครงการ และลูกค้าอุตสาหกรรม...สำหรับเที่ยวเรือ LNG ลำแรกนี้ Gulf LNG ได้ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG กับบริษัท ADNOC Trading โดยใช้บริการสถานีแอลเอ็นจีมาบตาพุดแห่งที่ 2 (LMPT2) ของบริษัทพีอี แอลเอ็นจี จำกัด (PE LNG) ในการแปรสภาพของเหลวเป็นก๊าซ และส่งเข้าระบบท่อส่งก๊าซของ ปตท.เพื่อส่งไปยังโรงไฟฟ้าในเครือกลุ่มบริษัทกัลฟ์ต่อไป...นอกจากนี้ กัลฟ์ มีแผนที่จะขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่องตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติที่กำลังมองหาผู้ให้บริการรายใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 โดยแบ่งเป็นการถมทะเล ซึ่งดำเนินการเรียบร้อยไปแล้วมากกว่า 95% และในส่วนของการพัฒนาโครงการสถานีรับ-จ่าย ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Terminal) คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570 เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมและความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในอนาคต...ll
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี