ผศ.ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (เลขาธิการ กขค.) คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมประเภทบริการ (Services) และสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials) ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองด้านการรวมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้อมูลสถิติการรวมธุรกิจในประเทศไทย ปี 2566 - 2567 สะท้อนจำนวนและมูลค่าการรวมธุรกิจที่สูงเป็นสองอันดับแรกของประเภทอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมประเภทบริการในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นตลาดที่มีผู้เล่นหลากหลาย ทั้งผู้เล่นในตลาดขนส่งรายใหญ่ ผู้เล่นจากแพลตฟอร์มออนไลน์ และผู้ค้าออนไลน์รายใหญ่ในตลาดขนส่งพัสดุ ในช่วงเวลาเร่งด่วนและระยะทางสั้น
อย่างไรก็ตามทำให้ตลาดมีความซับซ้อนและการแข่งขันรุนแรงขึ้น เนื่องจากบริการขนส่งของผู้ให้บริการรายต่าง ๆ มีความคล้ายคลึงกันสูง ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก จากการคาดการณ์เห็นว่า ในระยะสั้นอาจทำให้ผู้ประกอบธุรกิจขาดทุนจากการแข่งขันกันลดราคาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แต่ในระยะยาวรายเล็กอาจไม่สามารถแข่งขันได้ และอาจมีความเสี่ยงที่รายใหญ่หรือผู้ที่มีอำนาจในตลาดจะได้มาซึ่งส่วนแบ่งตลาดและสามารถเพิ่มราคาได้ในที่สุด ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่แตกต่างและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตได้ในตลาดที่แข่งขันสูง
ทั้งนี้สถิติการรวมธุรกิจของสำนักงาน กขค. ตั้งแต่ปี 2562 - 2567 พบว่า มีจำนวนการรวมธุรกิจทั้งหมด 163 กรณี หรือคิดเป็นมูลค่าการรวมธุรกิจ 4.88 ล้านล้านบาท โดยในปี 2565 มีจำนวนการรวมธุรกิจมากที่สุดถึง 42 กรณี ในขณะที่ปี 2564 มีมูลค่าการรวมธุรกิจมากที่สุดสูงถึง 2.05 ล้านล้านบาท เนื่องจากในปีดังกล่าวมีกรณีการรวมธุรกิจที่เข้าหลักเกณฑ์จะต้องขออนุญาตรวมธุรกิจ ซึ่งมักมีมูลค่าการรวมธุรกิจสูง นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมามีจำนวนการรวมธุรกิจ 21 กรณี คิดเป็นมูลค่าการรวมธุรกิจ 5.99 แสนล้านบาท แบ่งเป็นกรณีการแจ้งผลการรวมธุรกิจ 17 กรณี และขออนุญาตรวมธุรกิจ 4 กรณี โดยธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ มีมูลค่าการรวมธุรกิจสูงที่สุดถึง 1.82 แสนล้านบาท รองลงมาเป็นธุรกิจการแพทย์ที่แม้จะมีเพียง 1 กรณี แต่เข้าหลักเกณฑ์จะต้องขออนุญาตรวมธุรกิจ ซึ่งมีมูลค่าการรวมธุรกิจสูงถึง 1.25 แสนล้านบาท ซึ่งหากรวมมูลค่าการรวมธุรกิจของทั้งสองธุรกิจดังกล่าว จะพบว่ามีมูลค่ากว่า 51% ของมูลค่าการรวมธุรกิจในปี 2567
ขณะเดียวกัน สถานการณ์การรวมธุรกิจปีที่ผ่านมาในต่างประเทศ เช่น การรวมธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2528 โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากกองทุนไพรเวทอิควิตี้ (Private Equity Funds) ซึ่งเป็นกองทุนที่ระดมเงินทุนจากผู้ลงทุนสถาบัน ได้เข้าซื้อธุรกิจที่เหล่าบริษัทญี่ปุ่นขายออกไป นอกจากนี้ แนวโน้มการรวมธุรกิจปี 2568 ของสหรัฐอเมริกา จากรายงานการรวบรวมความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน มองว่า จะมีแนวโน้มทะลุถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ น่าจะสูงที่สุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากการกลับเข้าสู่ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมผลักดันและสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่ โดยการลดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการซื้อกิจการหรือรวมธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ กขค. มองว่าบรรยากาศการรวมธุรกิจของประเทศไทยในปี 2568 น่าจะคึกคักและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันกับประเทศอื่น จึงมีความท้าทายในการกำกับดูแลและติดตามด้านโครงสร้างตลาด สร้างสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการแข่งขันมากที่สุด อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กขค. ได้เฝ้าระวัง ติดตาม และตรวจสอบการรวมธุรกิจที่อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ขอเน้นย้ำว่า หากผู้ประกอบธุรกิจจะรวมธุรกิจขอให้ศึกษาทำความเข้าใจ
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี