นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการมอบรางวัลในการแข่งขันตอบปัญหาทางบัญชี ‘สัมมาอาชีวบัญชี มหาจักรีสิรินธร’ ครั้งที่ 10 ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จัดการแข่งขันตอบปัญหาทางบัญชี ‘สัมมาอาชีวบัญชี มหาจักรีสิรินธร’ มาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 10 แล้ว การแข่งขันดังกล่าวถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาสาขาบัญชีได้พัฒนาทักษะทางวิชาการ สร้างความสามัคคี และทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาก็สามารถนำผลจากการแข่งขันไปใช้ในการพัฒนานักศึกษาเพื่อให้เป็น  ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีที่มีศักยภาพ พร้อมก้าวเข้าสู่วิชาชีพบัญชีอย่างมีคุณภาพต่อไปในอนาคต

โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลนิติบุคคลให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมกับส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีธรรมาภิบาล ผ่านการกำกับดูแลการจัดทำบัญชีของธุรกิจ รวมทั้งการกำกับดูแลและการพัฒนา ‘ผู้ทำบัญชี’ ซึ่งมีหน้าที่จัดทำบัญชีให้แก่ภาคธุรกิจให้มีคุณภาพ สำหรับผู้ที่จะเป็นผู้ทำบัญชีได้นั้นจะต้องสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทางการบัญชี โดยปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ทำบัญชีที่แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 78,628 คน อยู่ในกรุงเทพฯและนนทบุรี จำนวน 35,113 คน และอยู่ในส่วนภูมิภาคอีก 43,515 คน รองรับกับการจัดทำบัญชีให้แก่นิติบุคคลกว่า 928,292 รายทั่วประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกปี เพราะทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีผู้ทำบัญชีอย่างน้อย 1 คน 

ทั้งนี้ผู้ทำบัญชีจึงถือว่ามีความใกล้ชิดและเป็นเพื่อนคู่คิดของภาคธุรกิจ รวมทั้งจะเป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นวิชาชีพบัญชีจึงมีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก มีส่วนสร้างความน่าเชื่อถือให้งบการเงินสะท้อนภาพธุรกิจที่เป็นจริง และสามารถนำงบการเงินไปใช้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างแม่นยำ ช่วยเปิดทางให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้   

‘นักศึกษาทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันตอบปัญหาทางบัญชีในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้รับรางวัลทุกคน ทุกสถาบัน แต่มั่นใจว่าทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันต่างได้รับความรู้ ได้มีโอกาสพบปะเพื่อนๆจากต่างสถาบัน ซึ่งนับเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก และขอฝากนักศึกษาทุกคนว่า ปัจจุบันนอกจากความรู้ทางด้านวิชาการบัญชีแล้ว จำเป็นจะต้องศึกษาหาความรู้หรือฝึกทักษะด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ทักษะด้านภาษา ทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ทักษะด้านการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานของนักศึกษาในอนาคตประสบผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในฐานะนักบัญชีต้องตระหนักถึงหลักจรรยาบรรณวิชาชีพเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นนักบัญชีมืออาชีพ เป็นผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีที่ดีและเก่งในอนาคต’นางอรมน  กล่าว

-033