นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนก.พ.ยี้ ภาคเอกชน นำโดย ภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะขอเข้าพบน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และทีมทำงานศึกษาเพื่อรับมือผลกระทบจากนโยบาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เบื้องต้นจะหารือถึงประเด็นที่ภาคเอกชนวิตกห่วงใยและอยากให้รัฐบาลไทยเตรียมพร้อม ก่อนที่คณะรัฐบาลจะนำคณะเยือนสหรัฐฯในเดือนก.พ.

   ภาคเอกชน เคยเสนอให้มีตัวแทนภาคเอกชนร่วมในทีมทำงานฯที่รัฐบาลตั้งขึ้น เพราะเอกชนมีข้อมูลเชิงลึก เอกชนรู้ว่าอะไรจะเจอผลกระทบหนัก อะไรต้องตั้งรับ เอกชนเรากังวลหลายเรื่อง
นายสนั่นกล่าวอีกว่า ผลกระที่เอกชนกังวลและมีการพูดคุยกับ เช่น แผงโซลาร์เซล ล้อรถยนต์ เป็นต้น โดยทีมทำงานควรเป็นลักษณะทีมไทยแลนด์ หรือ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (กรอ.) ที่ประกอบด้วย ตัวแทนภาครัฐและเอกชน และเจาะลึกเฉพาะทรัมป์ 2.0 เป็นหลัก

   ทั้งนี้การเจรจาระหว่างไทย กับสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในเดือนก.พ.นี้ ถือเป็นนัดเจรจาหารือที่สำคัญอย่างยิ่ง ต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด ต้องประเมินได้ว่าสหรัฐจะหยิบอะไรขึ้นมาเจรจา ขณะที่ไทยเองก็ไม่ควรเปิดข้อมูลหรือความต้องการทั้งหมด

   ประธานหอการค้าฯ กล่าวว่า จะหาโอกาสขอเข้าคุยกับนายกรัฐมนตรีโดยเร็วก่อน หลังจากนายกฯ กลับมาจากการร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่ดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะทำหนังสือนำคณะตัวแทนเอกชนเข้าพบ พร้อมกับข้อมูลสถานการณ์ต่างๆ ด้วย

   การรับมือนโยบายทรัมป์ 2.0 เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ไทยต้องเตรียมพร้อมอย่างรอบด้าน เพราะหากนโยบายดังกล่าวกลับมาใช้จริง อาจส่งผลกระทบต่อการค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งการมีทีมไทยแลนด์จะช่วยให้ไทยสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น