นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแจ้งว่าจากการออกพันธบัตรส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond: SLB) รุ่น SLB406A ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ในวงเงิน 30,000 ล้านบาท ได้รับรางวัล Best Sustainability-Linked Bond – Sovereign และรัฐบาลไทยได้รับรางวัล Thailand’s Best Issuer for Sustainable Finance ประจำปี พ.ศ. 2568 ในการจัดอันดับรางวัล Triple A Sustainable Finance Awards 2025 โดย The Asset ซึ่งเป็นสำนักข่าวชั้นนำด้านตลาดการเงินที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลจากการจัดอันดับรางวัลผ่านการสำรวจความคิดเห็นของผู้อ่าน สถาบันการเงิน นักลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกย่ององค์กรและธุรกรรมทางการเงินที่มีความโดดเด่นในแต่ละปี โดยรางวัลข้างต้นสะท้อนถึงความสำเร็จครั้งสำคัญในด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย

การออก SLB ดังกล่าวซึ่งเป็นครั้งแรกของรัฐบาลไทย และนับเป็น SLB รุ่นแรกที่ออกโดยรัฐบาล (Sovereign Issuance) ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้กำหนดตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ (Key Performance Indicators: KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (Sustainability Performance Targets: SPTs) อย่างชัดเจน ดังนี้

1) ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ไม่รวมการใช้ประโยชน์จากที่ดินและป่าไม้) ณ สิ้นปี พ.ศ. 2573 ที่ไม่เกิน 388,500 ktCO2e

2) ปริมาณการจดทะเบียนใหม่ของรถที่ปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicles : ZEVs) ประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะ (Passenger Car and Pick-Up Trucks) ณ สิ้นปี พ.ศ. 2573 ไม่ต่ำกว่า 440,000 คัน

ทั้งนี้ สบน. ได้กำหนดให้ SLB406A เป็นตัวแทนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 15 ปี ที่ใช้เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Benchmark Bond) และ สบน. มีแผนที่จะออก SLB406A ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าคงค้างให้แก่ SLB อันเป็นการสร้างสภาพคล่องให้กับพันธบัตรดังกล่าว นอกจากนี้ การออก SLB ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของรัฐบาลไทยในฐานะผู้นำด้านการสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย รวมถึงการผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ให้เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง

ในการนี้ สบน. ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการออก SLB ของรัฐบาลไทยจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมั่นในบทบาทด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยในเวทีโลก ตลอดจนสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนในอนาคตต่อไป

-031