นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมกราคม 2568 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมกราคม 2568 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่องในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ ตามแนวโน้มการขยายตัวในภาคบริการและภาคเกษตรเป็นสำคัญ รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และนโยบายภาครัฐ อาทิ มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ทั้งนี้ ต้องติดตามประเด็นความผันผวนของสภาพอากาศ และทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้  1.ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 76.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยมีแรงสนับสนุนจากความเชื่อมั่นในภาคบริการ อันเป็นผลมาจากการส่งเสริมและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่มีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล นอกจากนี้แนวโน้มความเชื่อมั่นในภาคเกษตรยังปรับตัวได้ดี เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลไม้เศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะทุเรียนและมังคุด ขณะเดียวกันอุปสงค์สินค้าเกษตรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องที่ระดับ 77.9

2.ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 76.5 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะในภาคบริการ ตามแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง การขยายตัวของธุรกิจเพื่อความบันเทิง อยู่ในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูการท่องเที่ยวของพื้นที่ในฝั่งอ่าวไทย และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของภาครัฐ อีกทั้งได้รับแรงสนับสนุนจากความเชื่อมั่นในภาคการลงทุน โดยคาดว่าจะมีการลงทุนในภาคบริการและโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มมากขึ้น ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย

3.ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 75.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีจากความเชื่อมั่นในภาคบริการ จากนโยบายและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและอุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่ม อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่มีต่อเนื่อง และการบริโภคในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากมาตรการตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

4.ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 71.5 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ปรับตัวได้ดี โดยเฉพาะในภาคบริการและภาคเกษตร จากการจัดงานเทศกาลและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในพื้นที่ โดยเฉพาะงานประเพณีบุญบั้งไฟในช่วงกลางปี ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรของภาครัฐ รวมถึงอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเพราะปลูก

5.ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 71.4 สะท้อนความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรที่มีแนวโน้มขยายตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี และความต้องการสินค้าเกษตรที่เพิ่มมากขึ้น

6.ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 71.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะในภาคเกษตรและภาคการลงทุน จากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 รวมถึงแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

7.ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 67.4 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาญบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคการลงทุน ทั้งนี้ ยังต้องติดตามประเด็นความแปรปรวนของสภาพอากาศ ซึ่งอาจส่งผลต่อกระทบต่อปริมาณผลผลิตการเกษตร และทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา และจีน เป็นสำคัญ

-031